ฟีเจอร์ของ Adobe Experience Manager Sites
CMS แบบ headless
นักพัฒนาและผู้ใช้ทางธุรกิจจะสามารถสร้างและนำเสนอเนื้อหาได้อย่างอิสระโดยใช้โมเดลแบบ headless หรือ headful ได้ทันที ซึ่งช่วยให้กำหนดโครงสร้างและนำเสนอเนื้อหาไปยังเฟรมเวิร์กฟรอนต์เอนด์ใดก็ได้
สำรวจประสิทธิภาพของ CMS แบบ headless ด้วยการทดลองใช้งานจริงฟรี
การจัดการเนื้อหาแบบแยกส่วน
Adobe Experience Manager Sites ช่วยให้นักการตลาดสามารถสร้างเนื้อหา พร้อมทั้งช่วยให้นักพัฒนาได้มุ่งสร้างและส่งมอบโค้ดอย่างเต็มที่ เราทำเช่นนี้โดยแยกแอปพลิเคชันที่ฟรอนต์เอนด์ออกจาก content management system ที่แบ็กเอนด์ ด้วย CMS แบบ headless ของเรา สร้างเนื้อหาที่มีโครงสร้างเพียงครั้งเดียว คุณก็สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำในดิจิทัลทัชพอยต์ต่างๆ ผ่าน API ได้
- โมเดลเนื้อหา จัดระเบียบและจัดโครงสร้างเนื้อหาสำหรับเว็บไซต์หรือแอปของคุณ สร้างจากเทมเพลตโมเดลเนื้อหาที่มีอยู่หรือสร้างเทมเพลตของคุณเอง
- Content Fragments ออกแบบ สร้าง และเผยแพร่เนื้อหา Content Fragments ช่วยให้คุณสามารถนำเนื้อหากลับมาใช้ซ้ำในการส่งมอบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแบบ headless, headful, หรือไฮบริด
- เครื่องมือแก้ไข Content Fragment ปรับเปลี่ยน content fragments ที่มีอยู่ได้อย่างรวดเร็วด้วยเครื่องมือแก้ไขที่คุ้นเคยและใช้งานง่าย สร้างและแก้ไขเนื้อหาได้เร็วขึ้นสำหรับพื้นที่ดิจิทัลต่างๆ ของคุณ แก้ไขพื้นที่ของหลายหน้าเว็บพร้อมกันด้วยการแก้ไขเป็นชุด
- Experience Fragments จัดกลุ่มเนื้อหาและเลย์เอาต์ต่างๆ เพื่อสร้าง content fragments แบบไม่จำกัดช่องทางที่สามารถใช้ซ้ำและเผยแพร่ได้บนทุกหน้าจอ ให้ข้อความและการออกแบบดูสม่ำเสมอโดยไม่จำเป็นต้องสร้าง assets ชิ้นงานจำนวนมาก
- การจัดการแบบหลายเว็บไซต์ สร้างและจัดการเนื้อหารูปแบบต่างๆ บนหลายเว็บไซต์ได้อย่างง่ายดายโดยการเผยแพร่โครงสร้างเนื้อหาต้นฉบับไปยังสำเนาที่ใช้งานอยู่และเชื่อมต่อด้วยการคลิกเพียงปุ่มเดียว วิธีการนี้ช่วยให้การเปลี่ยนแปลงใดๆ มีผลส่งต่อไปยังทุกส่วนในองค์กรและโครงสร้างเนื้อหาทั่วโลก
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดการเนื้อหาแบบแยกส่วน
Content as a Service v2 - deeper-content-3cc - Tuesday, April 30, 2024 at 11:45
Visual editing
Universal Editor ใน Experience Manager Sites ช่วยให้ทีมมีความสามารถพิเศษในการดูตัวอย่างและแก้ไขเนื้อหาต่างๆ ได้แบบเรียลไทม์ ไม่ว่าจะใช้เฟรมเวิร์กฟรอนต์เอนด์ใดหรือแสดงผลเนื้อหาในตำแหน่งไหน ผู้เขียนสามารถทำการเปลี่ยนแปลงได้ทันทีและดูตัวอย่างเนื้อหาได้อย่างง่ายดายในบริบทของประสบการณ์การออกแบบ
- Visual editing แก้ไขเนื้อหาต่างๆ เช่น รูปภาพ ข้อความโฆษณา วิดีโอ และอื่นๆ ทั้งในรูปแบบภาพและในบริบท ซึ่งหมายความว่าคุณสามารถแก้ไข content fragment ใดๆ ได้ตามที่ปรากฏบนหน้าเว็บหรือแม้แต่โครงสร้างหน้าเว็บทั้งหมดที่มีคอมโพเนนต์แบบซ้อนกัน
- ไม่จำกัดเฟรมเวิร์ก ใช้เฟรมเวิร์กฟรอนต์เอนด์ของคุณเอง (เช่น React, Vue, Angular เป็นต้น) และไม่ต้องกังวลเรื่องการควบคุมเวอร์ชันและการอัปเดต เครื่องมือการเขียนที่ใช้งานง่ายช่วยให้คุณ drag-and-drop องค์ประกอบต่างๆ ในการออกแบบหน้าเว็บได้อย่างง่ายดาย Universal Editor ยังใช้งานได้กับสถาปัตยกรรมทั้งหมด รวมถึงการแสดงผลฝั่งเซิร์ฟเวอร์ ฝั่งไคลเอ็นต์ หรือฝั่ง edge กับเนื้อหาที่โฮสต์ ไม่ว่าจะภายในเครื่องไปยัง Experience Manager หรือบนโดเมนระยะไกล
- แก้ไขได้อย่างยืดหยุ่น แก้ไขทุกแง่มุมของประสบการณ์ แม้แต่ประสบการณ์ที่ต้องใช้ข้อมูลเมตาเพิ่มเติมหรือการใช้สไตล์ต่างๆ เช่น คอลัมน์ ภาพสไลด์ แท็บ แอคคอร์เดียน เป็นต้น
- ปรับแต่ง UI ของคุณ เพิ่มส่วนขยายต่างๆ ให้กับ UI ของ Universal Editor รวมถึงการทดสอบ การจัดการงานของ Workfront และสร้างรูปแบบต่างๆ
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ visual editing
Content as a Service v2 - deeper-content-3cc - Friday, May 10, 2024 at 12:32
การส่งมอบ
นำเสนอเนื้อหาของคุณได้อย่างง่ายดายโดยใช้ API ที่ใช้งานง่ายและครอบคลุม
- GraphQL นำเสนอเนื้อหามีโครงสร้างที่สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้อย่างรวดเร็วไปยังแอปพลิเคชันอื่นๆ ในรูปแบบ JSON ผ่าน GraphQL
- บริการด้านเนื้อหา สร้างหน้าเว็บจากคอมโพเนนต์และเทมเพลตพื้นฐานที่ใช้งานได้ทันทีของ Experience Manager จากนั้นเนื้อหาของคุณจะได้รับการส่งผ่าน API ของบริการด้านเนื้อหาไปยังปลายทาง REST API ซึ่งแต่ละจุดจะมี URL ของตัวเอง
- การสืบค้นอย่างต่อเนื่อง ลดการดำเนินการสืบค้นโดยใช้การสืบค้นอย่างต่อเนื่องและการแคชโดยแคช HTTP หรือโดยใช้ content delivery network ของเรา แอปพลิเคชันไคลเอ็นต์จะขอสืบค้นอย่างต่อเนื่องด้วยคำขอ GET สำหรับการดำเนินการที่เปิดใช้งาน edge อย่างรวดเร็ว
- การส่งมอบรูปภาพที่ปรับให้เหมาะกับเว็บ ส่งมอบรูปภาพจาก digital asset manager ของคุณในรูปแบบ WebP ผ่าน GraphQL เพื่อการโหลดหน้าเว็บที่เร็วขึ้น ซึ่งช่วยลดขนาดที่ต้องดาวน์โหลดลง 25% โดยเฉลี่ย
การเพิ่มประสิทธิภาพ
ก้าวไปไกลกว่าการจัดการเนื้อหาและนำเสนอหน้าเว็บและแอปพลิเคชันที่มีประสิทธิภาพสูง
- การนำเสนอเฉพาะบุคคล เผยแพร่เนื้อหาที่มีโครงสร้างไปยังเครื่องมือการนำเสนอเฉพาะบุคคล เช่น Adobe Target, Adobe Journey Optimizer หรือเครื่องมือของ third-party สำหรับการทดสอบ A/B ขั้นสูงและการนำเสนอเฉพาะบุคคลแบบ omnichannel เพื่อให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุด
- การสร้างรูปแบบชิ้นงาน สร้างรูปแบบข้อความโฆษณาและรูปภาพที่มีประสิทธิภาพสูงได้ทันทีตามเซกเมนต์ต่างๆ โดยใช้ความสามารถด้าน Generative AI โดยไม่จำเป็นต้องมีความเชี่ยวชาญทางวิศวกรรม
“Adobe Experience Manager คือหัวใจสำคัญของประสบการณ์ดิจิทัลของเรา โดยเป็นแพลตฟอร์มที่เราใช้สร้างประสบการณ์บนเว็บ ส่วน Experience Manager แบบ headless ก็ช่วยเราออกแบบประสบการณ์การใช้งานบนแอปมือถือเช่นกัน ทีมของเราจึงสามารถส่งมอบเนื้อหาไปยังแอปมือถือและบนเว็บได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ”
Nicole West, VP of Digital Strategy & Product, Chipotle
เรียนรู้วิธีใช้ฟีเจอร์ของ CMS แบบ headless
ค้นหาสิ่งที่คุณต้องการในคอลเลกชันเนื้อหาวิธีใช้มากมายของเรา รวมถึงเอกสาร บทช่วยสอน และคู่มือผู้ใช้