วิดีโอ
วิธีเพิ่มฟิลเตอร์วิดีโอใน Adobe Premiere Pro
แปลงโฉมวิดีโอของคุณได้ในทันทีด้วย
พรีเซ็ตฟิลเตอร์วิดีโอ
ฟิลเตอร์วิดีโอคืออะไร
ฟิลเตอร์วิดีโอ (หรือที่เรียกกันใน Premiere Pro ว่าพรีเซ็ต) คือโอเวอร์เลย์ที่จะทำให้คลิปวิดีโอสว่างขึ้น มืดลง หรือสว่างเท่าๆ กันได้ Premiere Pro มีพรีเซ็ตการแก้ไขสีและการปรับแต่งมากมายที่คุณสามารถแก้ไขและนำไปใช้กับภาพยนตร์ของคุณได้ นับเป็นวิธีที่ง่ายและรวดเร็วในการยกระดับการไฮไลต์สีบางส่วนหรือเพิ่มเอฟเฟกต์ต่างๆ เช่น โทนซีเปีย ก่อนที่คุณจะแชร์วิดีโอ
ค้นหารูปลักษณ์ที่ใช่ได้อย่างรวดเร็วด้วยพรีเซ็ตฟิลเตอร์วิดีโอ
คุณสามารถนำพรีเซ็ตไปใช้กับคลิปวิดีโอใดๆ ได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากพรีเซ็ตนั้นได้ตั้งค่าโปรแกรมเอาไว้แล้วล่วงหน้า คุณสามารถใช้พรีเซ็ตเหล่านี้ในการแก้ไขสีเพื่อทำให้ฟุตเทจของคุณดูดีขึ้นและเข้าคู่กับฟุตเทจอื่นๆ ในโปรเจกต์ของคุณ หรือคุณสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงที่เด่นชัดได้ เช่น การเปลี่ยนฉากกลางวันให้เป็นกลางคืน การเพิ่มเอฟเฟกต์กลิตช์ หรือการเปลี่ยนฟิล์มแบบเต็มสีให้เป็นขาวดำ
การปรับมากเกินไปอาจอาจทำให้ผู้ชมเสียสมาธิจากเรื่องราวที่คุณกำลังเล่าได้ นักตัดต่อวิดีโอและนักแก้ไขสีมืออาชีพจึงแนะนำให้ใช้ฟิลเตอร์สีแต่พอควร คุณสามารถใช้พรีเซ็ตเพื่อลดการเปิดรับแสงลงเล็กน้อย เพื่อทำให้รายละเอียดของไฮไลต์เด่นชัดขึ้นและทำให้สีหนึ่งสีเด่นออกมาได้
หากคุณตั้งใจให้วิดีโอของคุณออกอากาศทางทีวี นำเสนอในแผ่น DVD หรือดูใน HDR คุณก็สามารถนำพรีเซ็ตไปใช้เพื่อให้แน่ใจว่าระดับความเข้มและความสว่างจะคงอยู่ภายในช่วงที่ปลอดภัยสำหรับการออกอากาศ วิธีนี้จะไม่ทำให้ทีมตรวจสอบคุณภาพของผู้จัดจำหน่ายแบนวิดีโอของคุณ
สำรวจพรีเซ็ตเอฟเฟกต์ที่รวมอยู่ใน Premiere Pro
หากต้องการค้นหาฟิลเตอร์วิดีโอฟรีหลากหลายแบบ ให้เปิดแผง Effect จากนั้นเปิดโฟลเดอร์ Lumetri Preset คุณจะพบกับโฟลเดอร์ 5 หมวดหมู่ต่อไปนี้
1. Cinematic:
พรีเซ็ตเหล่านี้ทำให้วิดีโอดูเหมือนภาพยนตร์
2. Filmstocks:
จำลองม้วนฟิล์มถ่ายภาพนิ่งสีต่างๆ และสีขาวดำ ม้วนฟิล์มภาพเคลื่อนไหว รวมถึงกระบวนการถ่ายภาพทางประวัติศาสตร์ต่างๆ ด้วยพรีเซ็ตเหล่านี้
3. Monochrome:
พรีเซ็ตเหล่านี้จะนำเอฟเฟกต์วิดีโอสีขาวดำต่างๆ ไปใช้
4. SpeedLooks:
ไม่ว่าคุณจะใช้กล้องตัวไหนในการจับภาพฟุตเทจ ให้นำพรีเซ็ตเหล่านี้ไปใช้เพื่อให้ได้รูปลักษณ์ของกล้องฟิล์มแต่ละตัว
5. Technical:
พรีเซ็ตเหล่านี้จะช่วยคุณในการเกรดสีขณะที่ยังคงสามารถนำไปออกอากาศได้อย่างปลอดภัย
วิธีเพิ่มฟิลเตอร์วิดีโอใน Premiere Pro
1. เปิดโปรเจกต์ของคุณ
นำเข้าไฟล์วิดีโอของคุณ ซึ่ง Premiere Pro รองรับรูปแบบวิดีโอโดยส่วนใหญ่ เพิ่มคลิปวิดีโอที่คุณต้องการตัดต่อลงในไทม์ไลน์ และย้ายตัวชี้ตำแหน่งไปยังคลิปที่คุณต้องการตัดต่อ
2. สร้างเลเยอร์การปรับแต่ง
การนำรูปลักษณ์ของคุณไปใช้กับเลเยอร์การปรับแต่งจะช่วยให้ระบบไม่แก้ไขฟุตเทจต้นฉบับของคุณ ทำให้คุณสามารถย้อนกลับไปทำการเปลี่ยนแปลงอื่นๆ ได้ในภายหลัง เพียงคลิกขวาที่แผง Project แล้วเลือก New Item › Adjustment Layer จากนั้นลากและปล่อยเลเยอร์การปรับแต่งลงในไทม์ไลน์ของคุณเหนือคลิปที่ต้องการตัดต่อ
3. เปิดแผง Effects
หากคุณไม่เห็นแผงในพื้นที่ทำงาน ให้เลือก Window › Effects ในเมนูด้านบนเพื่อเปิดแผงดังกล่าว
4. สำรวจฟิลเตอร์ต่างๆ
ในแผง Effects ให้เปิดโฟลเดอร์ Lumetri Presets คลิกที่โฟลเดอร์เพื่อเรียกดูฟิลเตอร์ที่สามารถใช้ได้
5. ลากและปล่อย
ลากฟิลเตอร์ลงบนคลิปของคุณในไทม์ไลน์ แล้วฟิลเตอร์ดังกล่าวจะปรากฏขึ้นบนคลิปของคุณในกล่องแสดงภาพตัวอย่าง หากคุณต้องการเลิกทำการกระทำดังกล่าว ให้กดปุ่ม Command+Z บน Mac หรือ Ctrl+Z บน Windows ฟิลเตอร์บางรายการอาจมีผลน้อยหรือไม่มีผลเลยกับบางคลิป ดังนั้นคุณควรแน่ใจว่าคุณได้ลองสำรวจหลายๆ ฟิลเตอร์
6. ปรับแต่งอย่างละเอียด
เมื่อคุณเพิ่มพรีเซ็ตแล้ว คุณสามารถทำการปรับแต่งได้ในแผง Lumetri Color เลื่อนแถบเลื่อน Intensity เพื่อเพิ่มหรือลดเอฟเฟกต์ คุณยังสามารถปรับการจางของฟิล์ม ความคมชัด ความสดของสี และความเข้มได้อีกด้วย หากต้องการทำให้บางสีโดดเด่นในเงาและไฮไลต์ ให้คลิกภายในวงล้อสีโดยเลื่อนไปยังเฉดสีที่คุณต้องการเลือก
7. เรนเดอร์
คุณต้องเรนเดอร์วิดีโอเพื่อให้ได้รูปลักษณ์พรีเซ็ตที่ถูกต้องเมื่อทำการส่งออก โดยจะเป็นการใช้เอฟเฟกต์กับวิดีโอแทนที่จะแค่แสดงตัวอย่างให้คุณดู เมื่อมีการใช้เอฟเฟกต์แล้ว การเล่นวิดีโอควรจะไหลลื่นและคุณควรได้เห็นภาพรวมลักษณะของฟิลเตอร์ว่ามีรูปลักษณ์เป็นเช่นไร หลังจากที่เพิ่มพรีเซ็ตลงในคลิปของคุณแล้ว ให้เลือก Sequence › Render Selection หากต้องการเรนเดอร์ซีเควนซ์ทั้งหมด ให้เลือก Sequence › Render In and Out (ขั้นตอนนี้จะใช้เวลาสักครู่)
วิธีสร้าง บันทึก และนำพรีเซ็ตของคุณเองไปใช้
สร้างการแก้ไขสีแบบกำหนดเองของคุณ แล้วบันทึกเพื่อนำไปใช้กับคลิปหรือโปรเจกต์อื่นๆ
1. เปิดพื้นที่ทำงาน Lumetri Color
เลือก Window › Workspace › Color เพื่อเปิดพื้นที่ทำงาน Color
2. ทำการปรับแต่ง
เลือกคลิปของคุณและทดลองด้วยการสร้างการปรับแต่งต่างๆ กับแถบเลื่อนและวงล้อสีสำหรับ Shadow Tint กับ Highlight Tint
3. บันทึกเป็นพรีเซ็ต
เมื่อคุณได้รูปลักษณ์ที่คุณพึงพอใจแล้ว คุณสามารถบันทึกเพื่อนำไปใช้กับคลิปอื่นๆ ได้ คลิกที่เมนูแผง (แถบแนวนอนสามขีดที่ด้านบนของแผง Lumetri Color) แล้วเลือก Save Preset ตั้งชื่อและใส่คำอธิบาย
4. นำพรีเซ็ตของคุณไปใช้กับคลิปอื่น
เปิดแผง Effects และค้นหาพรีเซ็ตแบบกำหนดเองของคุณใน Presets Bin โดยคุณสามารถนำพรีเซ็ตไปใช้กับคลิปต่างๆ ได้เพียงลากและปล่อยลงในคลิปในไทม์ไลน์ของคุณ
วิธีนำเข้าพรีเซ็ต
นอกจากพรีเซ็ตฟรีใน Premiere Pro แล้ว คุณยังสามารถนำเข้าฟิลเตอร์วิดีโอที่ผู้ใช้ Premiere Pro รายอื่นๆ ได้สร้างไว้และเผยแพร่ให้ใช้งานทางออนไลน์ได้ โดยฟิลเตอร์เหล่านี้จะอยู่ในรูปแบบไฟล์ .prfpset
1. รับพรีเซ็ตของคุณ
ดาวน์โหลดไฟล์พรีเซ็ตไปยังคอมพิวเตอร์ของคุณ
2. คลิกที่เมนูแผง Effects
ในเมนูดรอปดาวน์ ให้เลือก Import Presets
3. ค้นหาตำแหน่งและเลือกไฟล์ในคอมพิวเตอร์ของคุณ
เปิดไฟล์และค้นหาไฟล์ดังกล่าวในโฟลเดอร์พรีเซ็ต หากต้องการสร้าง Bin ใหม่ ให้คลิกขวาที่ Presets Bin แล้วเลือก New Presets Bin
ทำให้วิดีโอของคุณออกมาสมบูรณ์แบบด้วยฟีเจอร์การตัดต่อระดับมืออาชีพ
เร่งกระบวนการแก้ไขสีของคุณด้วย Auto Color ที่ขับเคลื่อนโดย Adobe Sensei AI Auto Color จะช่วยให้คุณเริ่มต้นได้ก่อนใครโดยการปรับแต่งคลิปวิดีโออย่างชาญฉลาด เพียงเปิดแผง Lumetri Color และคลิกที่ปุ่ม Auto คุณสามารถทำการปรับแต่งอย่างละเอียดในตัวควบคุมแถบเลื่อนที่ด้านบนของแผง Lumetri หรือใช้แถบเลื่อน Intensity เพื่อเพิ่มหรือลดเอฟเฟกต์โดยรวมได้
ไม่ว่าคุณจะสร้างวิดีโอบน iPhone หรือ Steadicam หรือไม่ว่าคุณจะตัดต่อเพื่อแชร์บน TikTok หรือส่งไปยังเทศกาลภาพยนตร์ คุณก็สามารถหลุดออกจากกรอบพื้นฐานได้ด้วยซอฟต์แวร์ตัดต่อวิดีโอ ทำให้วิดีโอของคุณมีรูปลักษณ์เฉพาะตัว ทดลองกับแนวต่างๆ หรือคิดทบทวนเกี่ยวกับรูปแบบในแบบที่คุณไม่สามารถทำได้ด้วยแอปตัดต่อวิดีโออื่นๆ โดยส่วนใหญ่
อย่าหยุดอยู่เพียงแค่ฟิลเตอร์วิดีโอ คุณสามารถใช้เครื่องมือตัดต่อวิดีโอใน Premiere Pro เพื่อเปลี่ยนวิดีโอของคุณให้เป็นงานศิลปะได้ สร้างซีเควนซ์เปิดเรื่องที่มีชีวิตชีวาด้วยเทมเพลตกราฟิกเคลื่อนไหวฟรี เพิ่มคำบรรยายได้ตามที่คุณต้องการอย่างแท้จริง ใช้การเปลี่ยนฉากสไตล์ต่างๆ (เช่น Star Wipe, anyone? Anyone?) และไปที่แผง Essential Sound เพื่อค้นหาเอฟเฟกต์เสียงกับเพลง คุณอาจเริ่มต้นด้วยช่อง YouTube และไปจบลงที่ Cannes
คุณอาจสนใจสิ่งเหล่านี้ด้วย
