วิธีสร้างวิดีโอแบบ Time-lapse
ไม่ว่าจะใช้กล้อง DSLR ระดับไฮเอนด์หรือโหมด Time-lapse บน Smartphone คุณก็สามารถทำวิดีโอแบบ Time-lapse ที่น่าตื่นตาได้ เพียงแค่มีกลเม็ดเคล็ดลับเล็กๆ น้อยๆ
Time-lapse คืออะไร
หากคุณเคยต้องการบันทึกภาพยามบ่ายที่มีมวลหมู่เมฆลอยผ่านไป ดวงดาวเคลื่อนที่ผ่านฟากฟ้า หรือความจอแจของถนนในเมืองกรุงยามบ่ายอันแสนวุ่นวายของวันหนึ่ง การถ่ายแบบ Time-lapse สามารถช่วยคุณเก็บลักษณะที่ไม่หยุดนิ่งของสิ่งต่างๆ ไว้ในวิดีโอแบบเรียลไทม์ที่ผ่านการเร่งเวลาได้
Time-lapse คือเทคนิคการถ่ายและการตัดต่อวิดีโอที่จะปรับเปลี่ยนการเก็บเฟรมเรต เฟรมเรตคือจำนวนรูปภาพหรือเฟรมที่ปรากฏในหนึ่งวินาทีของวิดีโอ ในวิดีโอส่วนใหญ่ เฟรมเรตและความเร็วขณะเล่นวิดีโอนั้นจะเท่ากัน แต่วิดีโอแบบ Time-lapse จะยืดเฟรมเรตให้ยาวกว่าเดิมมาก เมื่อเล่นวิดีโอด้วยความเร็วเฉลี่ยจึงดูเหมือนเวลาไหลเร็วขึ้น
"คือโลกแห่งความเป็นจริงรอบตัวคุณนั่นเอง แต่เร่งเวลาจนเห็นความเป็นไปของเหตุการณ์ในแบบเรียลไทม์ได้" Mike Olbinski ช่างภาพวิดีโอและนักล่าพายุ กล่าว การเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ ที่มองแทบไม่เห็นด้วยตาเปล่า เช่น การเจริญเติบโตของพืชหรือรูปแบบอากาศที่แปรไป คือตัวแบบที่เหมาะเจาะสำหรับการถ่ายวิดีโอและภาพแบบ Time-lapse
Time-lapse ยังหมายถึงความเร็วชัตเตอร์ของกล้อง (ระยะเวลาที่กล้องเปิดชัตเตอร์ให้แสงเข้า) ได้เช่นกัน เอฟเฟกต์ที่คล้ายคลึงกับ Time-lapse พบเห็นได้ในวิดีโอแบบ Stop-motion ซึ่งตัวแบบไม่ได้ขยับเองแต่ดูเหมือนเคลื่อนไหวเนื่องจากเราเป็นคนเลื่อนซ้ำๆ แล้วถ่ายภาพไว้ทุกครั้ง จากนั้นจึงนำภาพต่างๆ มาต่อกันเพื่อให้เกิดการเคลื่อนไหวเหมือนวิดีโอ
Time-lapse ทำงานอย่างไร
เราอาจมองว่า Time-lapse เป็นวิดีโอ แต่จริงๆ แล้ว Time-lapse ระดับมืออาชีพคือลำดับของภาพรอว์หลายๆ ภาพมารวมกัน ช่างภาพจะใช้กล้องถ่ายภาพไว้ชุดหนึ่งและแปลงเป็นวิดีโอด้วยแอปแก้ไขวิดีโอ
วิดีโอแบบ Time-lapse ส่วนใหญ่จะฉายที่ความเร็ว 30 เฟรมต่อวินาที (FPS) เฟรมเรตของวิดีโอแบบ Time-lapse ของคุณอาจกำหนดขึ้นในขั้นตอนตัดต่อ แต่คุณต้องคำนึงถึงความเร็วของการกระทำที่เกิดขึ้นในกล้องด้วย ไม่เช่นนั้นวิดีโอของคุณอาจกลายเป็นชุดภาพนิ่งไปได้ พิจารณา FPS ที่ต้องการฉายวิดีโอของคุณ คุณต้องถ่ายเฟรมในจำนวนเท่ากันนั้นต่อวินาทีเพื่อสร้างเอฟเฟกต์ Time-lapse หากคุณถ่ายวิดีโอ 10 วินาทีที่อัตรา 30fps คุณจะต้องถ่ายภาพให้ได้ 300 รูป
ก่อนถ่าย จัดเตรียมหน่วยความจำในกล้องของคุณให้พร้อมบันทึกภาพที่คุณต้องใช้ ช่างภาพจะถ่ายรูปภาพรอว์เพื่อสร้าง Time-lapse ด้วยหลายๆ เหตุผล หนึ่งในนั้นคือขนาดไฟล์ ไฟล์รูปภาพจะเล็กกว่าไฟล์วิดีโอ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญเมื่อคุณตั้งใจจะถ่าย Time-lapse ของช่วงเวลาที่ยาวนาน ขีดความสามารถในการถ่ายภาพกลางคืนของกล้องที่ใช้ความเร็วชัตเตอร์ต่ำเทียบกับกล้องถ่ายวิดีโอก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผล และสุดท้ายคือเมื่อมีเครื่องไม้เครื่องมือในราคาที่เอื้อมถึงมากขึ้น คุณยังสามารถสร้างวิดีโอความละเอียด 4K หรือ 6K ได้เมื่อจบกระบวนการ โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์กล้องวิดีโอพิเศษที่มีราคาแพง
การเปิดรับแสงต่าง ภาพต่าง
เมื่อถ่ายวิดีโอแบบ Time-lapse คุณจำเป็นต้องเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างเวลาที่เปิดรับแสงและความเร็วชัตเตอร์ ความเร็วชัตเตอร์คือระยะเวลาที่ชัตเตอร์บนกล้องของคุณเปิดให้เซ็นเซอร์รับแสง คือเวลาที่กล้องของคุณใช้ในการบันทึกเฟรมหนึ่งๆ ปริมาณ Motion Blur ที่ปรากฏในแต่ละเฟรมอาจเปลี่ยนแปลงได้โดยการปรับเวลาเปิดรับแสง ซึ่งจะทำให้ได้เอฟเฟกต์ที่แตกต่างกัน
Time-lapse แบบ Short Exposure ที่ระยะเวลาเปิดรับแสงสั้นจะใช้ความเร็วชัตเตอร์เร็วกว่า เปิดให้ฟิล์มรับแสงเพียงชั่วครู่ ซึ่งจะทำให้การเคลื่อนไหวดูเหมือนภาพ Stop-motion เหมาะสำหรับถ่ายสัตว์ กีฬา หรือวัตถุอื่นๆ ที่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วโดยไม่เก็บภาพเบลอโดยไม่จำเป็น ภาพแบบ Long Exposure ที่ระยะเวลาเปิดรับแสงยาวนั้นตรงข้ามกัน เพราะใช้ความเร็วชัตเตอร์นานกว่าเพื่อทำให้องค์ประกอบที่เคลื่อนไหวในภาพปรากฏไม่ชัดเจน Time-lapse แบบ Long Exposure เหมาะสำหรับถ่ายภาพดาวในท้องฟ้ายามค่ำ เพราะจะเก็บแสงเพื่อบันทึกภาพดาวได้อย่างเหมาะสมและทำให้ฉากดูงดงามตระการตา แต่การถ่ายแบบ Long Exposure ไม่ค่อยเป็นที่นิยมนักเนื่องจากการเปิดให้ฟิล์มรับแสงเป็นระยะเวลานานขนาดนั้นมีความเสี่ยงสูง เพื่อชดเชยการเปิดรับแสงเป็นเวลานานขึ้น ให้ใช้ฟิลเตอร์ ND กรองความเข้มของแสงออกไป โดยเฉพาะเมื่อถ่ายภาพในเวลากลางวัน
ความสัมพันธ์ระหว่างการเคลื่อนไหวและ Time-lapse
หากคุณต้องการทำวิดีโอแบบ Time-lapse แสดงการเดินเล่นในเมือง คุณอาจพบอุปสรรคในการถ่ายทำฟุตเทจนี้ กล้องจะต้องนิ่งหรือเคลื่อนที่ในระยะสั้นมากเพื่อให้เห็นความเหลื่อมเวลา ระยะสั้นๆ อาจรวมถึงการแพนหรือการเอียงกล้องอย่างสม่ำเสมอ แต่มักใช้ดอลลีติดมอเตอร์หรืออุปกรณ์ยึดเพื่อให้การเคลื่อนไหวลื่นที่สุด
วิดีโอแบบ Hyper-lapse นั้นตรงกันข้าม ไม่ได้เป็นไปตามหลักการเดียวกันนี้ วิดีโอที่ถ่ายทำด้วยเทคนิคนี้ (เรียกอีกอย่างว่า Time-lapse แบบ Stop-motion) จะเคลื่อนกล้องในระยะหนึ่งๆ และใช้ Long Exposure เพื่อให้เกิด Motion Blur ตัวเลือกนี้เหมาะที่สุดในการถ่ายภาพการเดินไปตามถนนในเมือง อีกขั้วหนึ่งของเทคนิคที่เล่นกับเวลาคือ Slow-motion ภาพ Slow-motion ทำได้โดยการลดความเร็วขณะเล่นวิดีโอให้ต่ำกว่าอัตราที่ถ่ายแทนเร่งความเร็ว
วิธีถ่ายวิดีโอแบบ Time-lapse
ทันทีที่ Apple เปิดตัวฟีเจอร์ Time-lapse ในแอปกล้องของค่ายเมื่อปี 2014 วิดีโอแบบ Time-lapse จึงได้รับความนิยมมากขึ้น ตอนนี้ เทคนิคที่เคยเห็นกันแค่ในซอฟต์แวร์แก้ไขวิดีโอได้เข้ามาอยู่ในอุปกรณ์มือถือแทบทุกเครื่อง หากจะถามว่าวิธีใดคือวิธีที่ดีที่สุดในการสร้างวิดีโอแบบ Time-lapse สวยๆ ที่โดดเด่นกว่าใครนั้น คำตอบก็ขึ้นอยู่กับวิธีที่คุณตั้งใจจะใช้ถ่ายฟุตเทจนั่นเอง
Smartphone:
โทรศัพท์ส่วนใหญ่มีฟีเจอร์ Time-lapse อยู่ในแอปกล้องติดเครื่องอยู่แล้ว อย่าลืมว่าคุณต้องบันทึกภาพให้นานกว่าวิดีโอจริง เนื่องจากการถ่าย 30 นาทีจะได้ฟุตเทจที่มีความยาวประมาณ 10 วินาที เช่นเดียวกับกล้องวิดีโอ คุณจะต้องมีขาตั้งกล้องเพื่อให้ถ่ายได้นิ่งที่สุด บน iPhone คุณสามารถถ่าย Time-lapse หรือสร้างขึ้นจากการนำคอลเลกชันภาพที่ถ่ายไว้มารวมกันก็ได้ ไม่ว่าวิธีใดก็ไม่จำเป็นต้องใช้โปรแกรมแก้ไขวิดีโอ
กล้องวิดีโอ:
กล้องวิดีโอรุ่นใหม่ๆ ส่วนใหญ่ รวมถึงกล้อง DSLR จะมาพร้อมกับโหมด Time-lapse ในตัว กล้องกลุ่มนี้จะมีฮาร์ดแวร์หรือซอฟต์แวร์ที่เลียนแบบ Intervalometer ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ใช้ควบคุมปริมาณแสงที่กล้องเปิดรับในระยะเวลาที่กำหนดไว้ระหว่างแต่ละเฟรม Intervalometer บางตัวมาพร้อมกับระบบควบคุมการเคลื่อนไหวที่จะเลื่อนตัวกล้องไปยังจุดหนึ่งๆ ขณะถ่าย ช่วยให้ได้ภาพ เช่น การแพนและการเอียง เมื่อเล่นด้วยความเร็วเฉลี่ย เช่นเดียวกับ Smartphone คุณต้องมีขาตั้งกล้องเพื่อให้ได้ภาพนิ่ง
เมื่อใช้กล้องวิดีโอ สิ่งสำคัญคือคุณต้องรู้ว่าจะตั้งค่ารอบชัตเตอร์อย่างไร "ยิ่งรอบของคุณช้า วิดีโอแบบ Time-lapse ของคุณก็จะยิ่งสั้น คุณต้องเลือกรอบที่เหมาะสมกับตัวแบบที่คุณมี หลักปกติคือ ยิ่งองค์ประกอบรวดเร็วเท่าไร รอบก็จะต้องเร็วขึ้นเท่านั้น" Emeric Le Bars ช่างภาพวิดีโอผู้เชี่ยวชาญ Time-lapse อธิบาย
เคล็ดลับการถ่าย Time-lapse
เมื่อคุณเลือกอุปกรณ์ที่จะใช้แล้ว ทำตามกลเม็ดเคล็ดลับเหล่านี้เพื่อให้ผู้ชมทุกคนตื่นตะลึง
รู้จักกล้องหรือ Smartphone ของคุณ:
เรียนรู้ว่าอุปกรณ์ของคุณทำอะไรได้บ้าง สำหรับวิดีโอแบบ Time-lapse คุณต้องการความสม่ำเสมอในทุกๆ ช็อตขณะถ่ายในโหมด Manual ทดลองโดยถ่ายวิดีโอประเภทอื่นก่อนที่จะถ่าย Time-lapse เพื่อให้รู้จักเครื่องมือทั้งหมดที่ใช้สร้างวิดีโอที่มีเอกลักษณ์ของคุณเอง
รู้จักตัวแบบของคุณ:
ศึกษาซีนที่คุณตั้งใจจะถ่าย ว่าเป็นภาพอะไร คุณต้องการให้เกิดความรู้สึกแบบใด อาจจะเป็นความยุ่งเหยิง หรือความเงียบสงบ หากคุณคิดจะถ่ายภาพท่ามกลางธรรมชาติ ให้ทำความคุ้นเคยกับพื้นที่นั้นๆ ตรวจสอบสภาพอากาศและหาข้อมูลว่ามีสัตว์ป่าชนิดใดผ่านไปในพื้นที่นั้นบ่อยๆ หรือไม่ สำรวจและเสาะหาชัยภูมิที่เหมาะสมสำหรับตั้งอุปกรณ์ของคุณ เพื่อไม่ให้มีอะไรมาขัดจังหวะการถ่ายทำได้ หากกล้องของคุณขยับแม้แต่น้อยระหว่างพยายามถ่ายวิดีโอแบบ Time-lapse จะกระทบต่อฟุตเทจทั้งหมด ดังนั้นให้วางแผนโดยคำนึงถึงข้อนี้ด้วย
ออกไปเผชิญกับความล้มเหลว:
ประสบการณ์คือครูที่ดีที่สุด อย่ากลัวที่จะก้าวออกไปเริ่มถ่าย แม้แต่ช่างภาพวิดีโอมือฉมังก็ต้องใช้เวลาหลายปีฝึกฝนการใช้เทคนิค Time-lapse จนชำนาญ ดังนั้นไม่ต้องกดดันตัวเองหากยังไม่ได้ภาพอย่างที่หวังในทันที แม้ว่าจะถ่ายภาพไม่ได้ในแบบที่จินตนาการไว้ ให้เรียนรู้จากข้อผิดพลาดและนำไปปรับใช้ในครั้งต่อไป
Time-lapse หลังการถ่ายทำ
เมื่อคุณได้ฟุตเทจที่พอใจแล้ว Adobe Premiere Pro มีเครื่องมือที่คุณจำเป็นต้องใช้ในการตัดต่อและปรับแต่งผลงานของคุณ ตัดต่อคลิปแบบ Time-lapse ของคุณเป็นวิดีโอที่ยาวขึ้น คุณสามารถรวมและแก้ไขคลิปวิดีโอบนอุปกรณ์มือถือของคุณได้ หรือเรียนรู้วิธีเร่งหรือลดความเร็วของฟุตเทจระหว่างตัดต่อ ด้วยเครื่องมือแก้ไขวิดีโอของ Premiere Pro และเทคนิคในตัวกล้องเหล่านี้ คุณก็สามารถวิดีโอแบบ Time-lapse ที่น่าอัศจรรย์ใจได้ไม่ยาก
ผู้มีส่วนร่วม
ทำสิ่งต่างๆ ได้มากขึ้นด้วย Adobe Premiere Pro
สร้างและแก้ไขวิดีโอได้จากทุกที่ ทั้งบนโทรศัพท์ แท็บเล็ต และเดสก์ท็อป แก้ไขและแชร์วิดีโอที่ดูเป็นมืออาชีพของคุณสู่โลกโซเชียล
และคุณอาจสนใจ...
การจัดแสงแบบ Low-key และ High-Key
เรียนรู้เกี่ยวกับประโยชน์ทางศิลปะของการจัดแสงแบบ High Key และ Low Key ในการถ่ายวิดีโอ
ยกระดับงานศิลป์ ประสิทธิภาพ และความลุ่มลึกทางอารมณ์ในงานของคุณด้วยเทคนิคที่เป็นประโยชน์เหล่านี้
วิธีย้อนกลับฟุตเทจวิดีโอใน Adobe Premiere Pro
เรียนรู้วิธีดึงดูดผู้ชมของคุณด้วยวิดีโอย้อนกลับใน Adobe Premiere Pro