การสร้างวิดีโอขนาดยาวสำหรับเว็บและอื่นๆ

ทำวิดีโอแบบยาวในโลกที่เต็มไปด้วยวิดีโอแบบสั้น

ด้วยความนิยมของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอย่าง TikTok และความเชื่อที่แพร่หลายเกี่ยวกับช่วงความสนใจที่ลดลงเรื่อยๆ วิดีโอที่มีความสั้นจึงมักถูกยึดถือไว้เป็นมาตรฐานใหม่ แต่แนวคิดบางอย่างต้องการพื้นที่มากกว่า 60 วินาที “การสร้างภาพยนตร์แบบยาวสำหรับสารคดีหรือบทช่วยสอนเป็นโอกาสครั้งใหญ่ เพราะคุณกำลังอัดข้อมูลเข้าด้วยกัน” ผู้สร้างเนื้อหา Joshua Martin กล่าว “คุณกำลังพยายามอธิบายเรื่องราวให้มากขึ้นและทำให้ผู้ชมจดจ่ออยู่กับเนื้อหา”

ต้องยาวแค่ไหนถึงจะเรียกว่ายาว

“สิ่งนี้อาจฟังดูไร้สาระ แต่สำหรับนักการตลาด อะไรที่ยาวกว่าห้านาทีเป็นวิดีโอที่ยาว” นักตัดต่อวิดีโอ Cody Liesinger กล่าว “แน่นอน คุณมีผู้สร้างภาพยนตร์อย่าง Scorsese ที่สร้างภาพยนตร์สี่ชั่วโมงให้กับ Netflix และในทางเทคนิคแล้ว ภาพยนตร์แบบยาวจะมีความยาวอย่างน้อย 50 นาที แต่สำหรับผู้ชม แค่ห้านาทีก็เพียงพอแล้ว”

ข้อดีของวิดีโอแบบยาว

วิดีโอขนาดยาวช่วยให้ผู้ดูมีเวลาในการทำความเข้าใจกับหัวข้อมากขึ้น “ด้วยเนื้อหาสั้น ๆ คุณจะต้องแก้ไขเนื้อหาออกไปเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่องเพื่อให้ตรงประเด็น และนั่นเป็นทักษะที่น่าอัศจรรย์มาก” Martin กล่าว “แต่บางครั้งคุณต้องพาใครสักคนไปด้วยเพื่อให้พวกเขาอินไปกับเรื่องราวและย่อยเนื้อหานั้น” วิดีโอขนาดยาวยังช่วยให้ผู้สร้างเนื้อหาทำงานด้วยได้มากขึ้น นอกจากนี้ คุณยังสามารถปรับเปลี่ยน วิดีโอ YouTube ที่ยาวกว่าเป็นคลิปที่สั้นลงเพื่อใช้ในช่องต่างๆ ได้เสมอ

วิธีทำให้วิดีโอยาวดูน่าสนใจ

ความกังวลเกี่ยวกับวิดีโอที่ยาวคือการดึงความสนใจของผู้ชมเอาไว้ ดึงความสนใจผู้ชมเอาไว้ด้วยการนำเสนอหัวข้อของคุณในแบบที่ดึงดูดใจและตัดต่อวิดีโอของคุณให้มีจังหวะการเล่าเรื่องที่เหมาะสม “วิดีโอแบบยาวถูกกำหนดโดยเรื่องราวและแพลตฟอร์ม แต่ความท้าทายที่นักตัดต่อต้องเผชิญจากวิดีโอคือความเร็วในการดำเนินเรื่อง” Liesinger กล่าว “ยิ่งวิดีโอของคุณยาวเท่าไหร่ ความเร็วในการดำเนินเรื่องก็จะยิ่งมีความสำคัญมากขึ้นเท่านั้น”

นักตัดต่อและผู้สร้างเนื้อหาจะมีเวลาในการทำงานมากขึ้นเมื่อสร้างวิดีโอขนาดยาว แต่กลยุทธ์ในการแก้ไขจะซับซ้อนมากขึ้นตามไปด้วย ค้นหาความสมดุลระหว่างการสร้างความน่าหลงไหลและการรักษาความถูกต้องของข้อมูลเอาไว้ “คุณต้องทำให้ผู้คนคอยคาดเดาอยู่ตลอดไปพร้อมกับการบอกเล่าเรื่องราวในแบบที่ควร” Liesinger กล่าว “ด้วยเนื้อหาที่ยาวขึ้น วิดีโอจะซับซ้อนขึ้นจนเหมือนหมากรุกแทนที่จะเรียบง่ายแบบหมากฮอส”

มีส่วนร่วมกับผู้ชมของคุณ

ในช่วง 10 ถึง 15 วินาทีแรก แสดงให้ผู้ชมเห็นว่าเหตุใดพวกเขาจึงควรดูต่อ สำหรับบางอย่าง เช่น วิดีโอเพื่อการศึกษา อาจง่ายพอๆ กับการอธิบายว่าคุณจะแชร์ข้อมูลใดบ้าง “ในกรณีนี้ คุณต้องรู้เรื่องราวที่คุณต้องการจะเล่า” Martin กล่าว “และถ้าคุณสามารถอธิบายได้ภายใน 15 วินาทีแรกของวิดีโอ นั่นก็คือวิดีโอที่ควรค่าแก่การชม”

สำหรับเนื้อหาด้านการตลาดหรือเนื้อหาสำหรับงานข่าวที่ซับซ้อนมากขึ้น ควรจุดประกายความอยากรู้อยากเห็นของผู้ชมด้วยคำถามที่จะได้รับคำตอบจากการดูวิดีโอที่เหลือเท่านั้น “หน้าที่ของนักตัดต่อคือการทำให้แน่ใจว่าการเล่าเรื่องราวใน 15 วินาทีแรกนั้นทำให้เกิดคำถามมากกว่าคำตอบ” Liesinger กล่าว

ใส่ใจตัวชี้วัดของคุณ

หากแพลตฟอร์มวิดีโอที่คุณใช้มีเครื่องมือวิเคราะห์ ให้ใช้เพื่อดูว่าผู้ชมของคุณเลิกชมและหยุดชมเมื่อใด พยายามสังเกตสิ่งที่คุณอาจต้องการเปลี่ยนแปลงในครั้งต่อไปที่คุณอัปโหลดวิดีโอเพื่อรั้งความสนใจของกลุ่มผู้ชมเป้าหมายให้นานขึ้น หากคุณกำลังโพสต์บนบัญชี YouTube โปรดจำไว้ว่าเวลาในการรับชมของผู้ชมที่สูงขึ้นจะสนับสนุนให้อัลกอริทึมของแพลตฟอร์มแสดงวิดีโอของคุณให้มากกว่าเดิม

การเชี่ยวชาญในหัวข้อเฉพาะที่ไม่เหมือนใครในชุมชนวิดีโอออนไลน์สามารถช่วยให้คุณเพิ่มการมีส่วนร่วมได้ แต่อย่าลืมให้ความสำคัญกับเนื้อหาของคุณสำหรับผู้มาใหม่ต่อไป ผู้ติดตามที่ภักดีของ ช่อง YouTube ของคุณจะดูเนื้อหาของคุณจนจบเกือบทุกครั้ง เป้าหมายในการสร้างการมีส่วนร่วมคือการกระตุ้นความสนใจของผู้ชมรายใหม่

มีส่วนร่วมด้วยตัวคุณเอง

หากคุณไม่สนใจเนื้อหาวิดีโอของคุณ ผู้ชมของคุณก็จะไม่สนใจเนื้อหาของคุณเช่นกัน ติดตามดูครีเอเตอร์คนอื่นๆ และลงมือหาข้อมูลเกี่ยวกับหัวข้อของคุณ การศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมด้วยตนเองอย่างต่อเนื่องสามารถทำหน้าที่เป็นจุดประกายให้เกิดแนวคิดเกี่ยวกับเนื้อหาใหม่ๆ ได้ “หากคุณเรียนรู้เกี่ยวกับตัวเองและความสนใจของคุณอย่างต่อเนื่อง คุณจะมีเรื่องที่เอามาพูดคุยได้อยู่เสมอ” Martin กล่าว

แล้วก็อย่าลืมเปิดประตูรับไอเดียใหม่ๆ ที่จะมาจากสถานที่ที่คุณคาดไม่ถึง “แรงบันดาลใจสามารถมาจากทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นหนังสือ ภาพวาด บทสนทนา หรือวิดีโอเกม” Liesinger กล่าว “แค่ยอมรับว่าศิลปะทุกประเภทที่เคลื่อนไหวได้ก็สามารถนำไปใช้กับงานฝีมือของคุณได้เช่นกัน ไม่สำคัญว่าสื่อคืออะไร”

ทุ่มเทให้กับวิดีโอ

วิดีโอที่โดดเด่นเริ่มต้นด้วยการวางแผนอย่างละเอียด แม้แต่วิดีโอธรรมดาๆ ก็ควรมีโครงร่างของสคริปต์แบบคร่าวๆ เขียนขึ้นมาแล้ววางแผนวันถ่ายทำ เพื่อให้คุณมีทุกสิ่งที่จำเป็น

เขียนมันออกมา

เปลี่ยนแนวคิดวิดีโอเบื้องต้นของคุณให้เป็นแบบร่างคร่าวๆ หรือรายการหัวข้อย่อยที่คุณต้องการกล่าวถึง จากนั้นจึงค่อยๆ เกลาให้ออกมาเป็นสคริปต์ที่ใช้งานได้ซึ่งมีเรื่องสำคัญทั้งหมดที่คุณต้องจัดการ ในการสร้างสคริปต์การถ่ายทำสำหรับใช้จริง ให้คุณบันทึกช่วงการเปลี่ยนภาพ การพากย์เสียง B-roll ที่จำเป็น (ฟุตเทจพื้นหลังหรือฟิลเลอร์) และอื่นๆ

การเตรียมสคริปต์สำหรับวิดีโอขนาดยาวของคุณช่วยลดโอกาสที่คุณจะพูดออกนอกเรื่องหรือพลาดประเด็นสำคัญ ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อการมีส่วนร่วมโดยรวม “ผมขอแนะนำอย่างยิ่งให้เขียนสคริปต์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณมักที่จะพูดออกนอกเรื่อง” Martin กล่าว “ผมเขียนสคริปต์สำหรับทุกอย่าง ซึ่งมักจะเริ่มต้นด้วยหัวข้อย่อยหรือบันทึกย่อในโทรศัพท์ของผมเอง จากนั้นผมก็จะเกลาคำพูดแบบคำต่อคำในสิ่งที่ผมต้องการจะพูด”

“สคริปต์ทำให้คุณมีจุดมุ่งหมาย หากคุณไม่มีจุดมุ่งหมายในฐานะผู้สร้างเนื้อหา เนื้อหาของคุณก็จะสะเปะสะปะไปทั่ว” Martin กล่าว “และคนดูก็จะสังเกตว่าคุณทำได้ดีหรือไม่ได้วางแผนไว้ได้ดีเพียงใด” วิดีโอบทแนะนำหรืออธิบายส่วนใหญ่สามารถใช้แค่สคริปต์ได้ ในขณะที่ภาพยนตร์ที่ซับซ้อนหรือมีสไตล์พิเศษอาจต้องใช้ สตอรีบอร์ด เพื่อให้เห็นแผนภาพที่สมบูรณ์ก่อนเริ่มถ่ายทำ

รวบรวมอุปกรณ์ของคุณ

หากคุณเพิ่งเริ่มใช้งาน ให้ใช้สิ่งที่คุณมีอยู่ในมือ หากต้องการถ่ายทำที่บ้าน สิ่งที่คุณต้องมีจริงๆ คือ iPhone, หน้าต่าง, ขาตั้งกล้อง และไมโครโฟน “มองหาพื้นที่ในบ้านที่มีแสงธรรมชาติส่องเข้ามา หากแสงมากเกินไป ให้คุณติดม่านโปร่งเพื่อกระจายแสง” Martin กล่าว

แม้ว่าคุณจะถ่ายภาพด้วยโทรศัพท์ ขาตั้งกล้องก็ช่วยให้โทรศัพท์ไม่ส่ายไปมาทำให้ดูเป็นมืออาชีพ และสุดท้าย ไมโครโฟนสำหรับบันทึกเสียงก็เป็นสิ่งจำเป็น “หากคุณจะใช้จ่ายเงิน ให้ใช้เงินซื้อไมค์ เสียงที่ดีสามารถตัดสินคุณภาพของวิดีโอได้เลย” Martin กล่าว “เสียงที่ดีและไอเดียที่ดี”

ถ่ายทำอย่างมืออาชีพ

พยายามจดจำสคริปต์ของคุณก่อนการถ่ายทำ การอ่านจากบันทึกย่อของคุณนั้นมีความสะดวก แต่ผู้ชมก็จะสังเกตเห็นได้ชัดเจนเช่นกัน การใช้ความจำช่วยให้ทุกอย่างดูเป็นธรรมชาติและผ่อนคลาย หาคุณต้องการพูดแบบคำต่อคำจากสคริปต์ ให้ฝึกประโยคนั้นซ้ำๆ จนกว่าคุณจะจำได้

“ผมพยายามทำทุกอย่างจากความทรงจำ” Martin กล่าว “ผมต้องการสร้างความสัมพันธ์และสบตากับกล้อง แต่ถ้าผมเหลือบตามองไปที่โน้ต ผมก็จะไม่มีสมาธิ”

เพิ่มตัวชี้นำภาพและเสียงสำหรับตัวคุณเองในขณะที่คุณถ่ายทำเพื่อให้ง่ายต่อการตัดต่อไฟล์วิดีโอของคุณในภายหลัง หลังจากที่คุณถ่ายทำเทคที่คุณรู้สึกดีจริงๆ เสร็จสิ้นแล้ว ให้คุณปรบมือดังๆ หนึ่งครั้ง การทำเช่นนี้จะทำให้มีเส้นที่เด่นชัดปรากฏขึ้นในไทม์ไลน์เสียงของคุณในซอฟต์แวร์ตัดต่อ ดังนั้นคุณจะรู้ว่าต้องข้ามไปที่ส่วนไหนสำหรับเทคโปรดของคุณ

รับทุกสิ่งที่คุณต้องการในการตัดต่อวิดีโอที่ยาวขึ้น

Adobe Premiere Pro มีคุณสมบัติขั้นสูงที่ทำให้การตัดต่อวิดีโอบนคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์มือถือของคุณรวดเร็วกว่าที่เคย จัดเรียงคลิปของคุณใหม่ เพิ่มช่วงการเปลี่ยนภาพแบบมืออาชีพ และใส่เอฟเฟกต์เสียงแบบสต็อกและคลิปเพลง Premiere Pro มีอะไรต่างๆ มากมายให้สำรวจ แต่คุณไม่จำเป็นต้องรีบ

พักระหว่างการถ่ายทำและการตัดต่อ

การหยุดพักระหว่างการถ่ายทำและการตัดต่อจะเป็นประโยชน์ต่อการทำงาน “จริงๆ แล้วผมจะพักสักครู่ก่อนที่จะเริ่มตัดต่อ เพื่อให้สมองได้พักผ่อน” Martin กล่าว “เพราะเมื่อคุณเริ่มทำงานอีกครั้งโดยไม่เหนื่อยล้า คุณจะมีมุมมองที่ดีขึ้นเกี่ยวกับวิธีตัดต่อวิดีโอของคุณ การทำแบบนี้ช่วยให้คุณจะเป็นนักตัดต่อที่ดียิ่งขึ้น”

นำฟุตเทจของคุณกลับมาใช้ใหม่

เมื่อคุณมีคลิปที่เสร็จสมบูรณ์แล้ว ให้คุณตัดออกเป็นเวอร์ชันต่างๆ ที่ปรับแต่งสำหรับแต่ละช่องทางที่คุณต้องการแชร์ แพลตฟอร์มต่างๆ มีข้อจำกัดที่แตกต่างกันในแง่ของขนาดไฟล์หรือความยาวสูงสุด แม้ว่าฟีด Instagram จะรองรับวิดีโอที่ยาวไม่เกิน 60 วินาทีเท่านั้น แต่วิดีโอสดของ Instagram อาจยาวได้ถึง 60 นาที และวิดีโอ IGTV อาจยาวได้ถึง 15 นาที (หากคุณอัปโหลดจากแอปบนอุปกรณ์เคลื่อนที่) หรือ 60 นาที (หาก คุณกำลังอัปโหลดจากเว็บ)

แต่ละแพลตฟอร์มมีอัตราส่วนภาพที่เหมาะสมของตนเองเช่น เฟรมแนวตั้ง 9:16 สำหรับ IGTV หรือ Stories เฟรมแนวนอน 16:9 สำหรับ YouTube หรือ Vimeo หรือเฟรมสี่เหลี่ยม 1:1 สำหรับฟีด Instagram ฟีเจอร์ปรับเฟรมอัตโนมัติใน Premiere Pro ทำให้การจัดเฟรมภาพใหม่อย่างรวดเร็วในอัตราส่วนภาพใหม่เป็นเรื่องง่าย โดยยังคงไว้ซึ่งความโดดเด่นของสิ่งที่เกิดขึ้นในฉาก

รวบรวมอุปกรณ์ง่ายๆ บันทึกภาพการทำอะไรสักอย่าง และดูลองดูว่าคุณสามารถสร้างวิดีโอความยาว 5 ถึง 50 นาทีแบบไหนได้บ้าง