DAW ที่ดีที่สุดสำหรับมือใหม่

หลังจากที่คุณบันทึกพ็อดแคสต์ เล่นเครื่องสังเคราะห์เสียง หรือเล่นดนตรีในสตูดิโอในบ้าน สำรวจดูคุณสมบัติที่คุณควรมองหาจากเวิร์กสเตชันเสียงดิจิทัลเพื่อสร้างสรรค์เสียงที่มีคุณภาพระดับมาตรฐานอุตสาหกรรม

คำแนะนำเบื้องต้นเกี่ยวกับซอฟต์แวร์ผลิตเสียงและดนตรี

ยุคดิจิทัลเอื้อประโยชน์ให้นักออกแบบเสียงและโปรดิวเซอร์ดนตรี เมื่อราวๆ ห้าสิบปีก่อน สตูดิโอการผลิตต้องเต็มไปด้วยสายไฟ เทป และอุปกรณ์อนาล็อกต่างๆ มากมาย เครื่องมือหลายชิ้นยิ่งขึ้นที่เคยกินพื้นที่ในห้องเยอะๆ กลายเป็นซอฟต์แวร์ชิ้นหนึ่งที่เพียงต้องติดตั้งลงบน Mac หรือพีซี Windows ของคุณ กระบวนการผลิตเสียงย่อขนาดลงจนสามารถอยู่ในกล่อง แต่อะไรคือปัจจัยที่จำเป็นให้คุณสามารถสร้างเสียงคุณภาพสูงๆ ในกล่องดังกล่าวได้

คุณสมบัติที่ควรมองหาในเวิร์กสเตชันเสียงดิจิทัล

ซอฟต์แวร์เวิร์กสเตชันเสียงดิจิทัลหรือ DAW เป็นเครื่องมือในการจัดระเบียบ โปรดิวเซอร์ต้องทำงานกับแทร็กจำนวนมากและเสียงหลากหลายประเภท การจัดทุกๆ องค์ประกอบของเพลง พ็อดแคสต์ หรือแทร็กจังหวะดนตรีให้เป็นระเบียบอยู่เสมออาจเป็นงานที่ท้าทาย แทร็กอาจมีการบันทึกเสียงที่แตกต่างกัน มีการใช้เอฟเฟกต์ที่ไม่เหมือนกัน มาจากสตูดิโออัดเสียงคนละสตูดิโอ หรืออาจอยู่ในรูปแบบไฟล์ที่ต่างกัน

การจัดการกับปัจจัยที่แตกต่างกันไปทั้งหมดนี้อาจกลายเป็นเรื่องชวนปวดหัวได้ง่ายๆ และ DAW ยอดนิยมทุกรายการก็มาพร้อมกับเครื่องมือในการจัดระเบียบเพื่อช่วยให้โปรดิวเซอร์สามารถเปลี่ยนความยุ่งเหยิงเป็นการมิกซ์ดีๆ ได้ อินเตอร์เฟสแบบลากและปล่อยสำหรับผู้ใช้ (เหมือนใน Adobe Audition และ Pro Tools) สามารถช่วยลดความซับซ้อนของการจัดระเบียบในการแก้ไขเสียงได้ ปลั๊กอินและเครื่อง Sampler นั้นมีประโยชน์แต่โต๊ะทำงานเสมือนที่เป็นระเบียบถือเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้

หากเป็นไปได้ คุณควรดำเนินงานกับรูปแบบไฟล์แบบ Lossless อย่างไฟล์ WAV ซึ่งต่างจากไฟล์ MP3 หรือไฟล์เสียงยอดนิยมอื่นๆ เนื่องจากไฟล์ WAV จะไม่สูญเสียข้อมูลใดไปเมื่อบีบอัด โดยส่วนมากแล้ว หมวดหมู่ดนตรีหรือประเภทของเสียงไม่ใช่ปัจจัยที่สำคัญในซอฟต์แวร์ DAW โปรดิวเซอร์เก่งๆ จะสามารถใช้ DAW เดียวเพื่อจัดทำพ็อดแคสต์ที่มีเสียงเดียวหรือดนตรีฮิปฮอปได้ แต่ EDM เป็นข้อยกเว้นพิเศษ ซอฟต์แวร์ DAW และเครื่องมือสร้างจังหวะดนตรีบางชิ้นจะมีความเชี่ยวชาญในด้านเครื่องดนตรีเสมือนสำหรับการผลิตดนตรีอิเล็กทรอนิกส์โดยเฉพาะ

เริ่มผลิตเสียง

โปรดิวเซอร์เสียงเก่งๆ ล้วนขัดเกลาทักษะของตนเองด้วยวิธีเดียวกันกับนักดนตรี ซึ่งก็คือการฝึกฝน “ถ้าคุณไม่สามารถอัดเสียง ลองดาวน์โหลดเสียงอะไรก็ตามที่หาได้แล้วดัดแปลงไปเรื่อยๆ” วิศวกรเสียง Lo Boutillette แนะนำ “ไม่ว่าจะเป็นเพลงหรือเอฟเฟกต์เสียง อะไรก็ได้ที่คุณอยากสร้างขึ้นมา” หรือลองรีมิกซ์การบันทึกเสียงที่ึคุณรู้จักเป็นอย่างดี เพิ่ม Reverb ไปยังเพลงโปรดของคุณ หรือเพิ่มซินธิไซเซอร์ลงในการบันทึกเสียงที่ยังขาดองค์ประกอบนี้ไปเพื่อให้สามารถทำความเข้าใจได้ว่าเอฟเฟกต์เหล่านี้ส่งผลต่อการมิกซ์อย่างไร

ยิ่งคุณสามารถควบคุมสภาพแวดล้อมในการบันเสียงได้มากเท่าไหร่ การผลิดเสียงของคุณก็จะดียิ่งขึ้นเท่านั้น หากคุณดำเนินงานจากสตูดิโอบันทึกเสียงในบ้าน คุณจะสามารถเข้าใจได้ว่าแทร็กเสียงของคุณประกอบไปด้วยอะไรบ้าง รวมทั้งเข้าใจว่าแทร็กเสียงจะฟังดูเป็นอย่างไรจากอีกด้านของซอฟต์แวร์บันทึกเสียงของคุณ

คุณสามารถใช้เคล็ดลับง่ายๆ เพื่อยกระดับการบันทึกเสียงของคุณให้มีคุณภาพเสียงที่ดีขึ้น “ฉันมักจะตัดความถี่เสียง 250 เฮิรตซ์ออกไปบางส่วน” Boutillette แนะนำ “ซึ่งฉันเรียกว่าความถี่เสียงในห้องน้ำ เพราะมีลักษณะเหมือนเสียงโถชักโครก แล้วใครจะไปอยากฟังเสียงแบบนั้น โดยปกติแล้ว ไดอาล็อกจริงๆ ของคุณจะฟังดูชัดเจนกว่าเดิมมากเพราะคุณได้ตัดครึ่งล่างส่วนออกไปแล้ว”

บอร์ดมิกซ์เสียงอาจต้องใช้เวลาในการเรียนรู้

ไม่ว่าคุณจะเลือก DAW แบบไหน แม้แต่เครื่องมือที่ใช้งานง่ายที่สุดก็อาจต้องใช้เวลานานในการเรียนรู้ DAW รุ่นท็อปๆ ราคาแพงพร้อมอินเตอร์เฟสสำหรับผู้ใช้แบบสกีวโอมอร์ฟที่คล้ายกับบอร์ดมิกซ์เสียงแบบดั้งเดิมอาจมีลูกบิด ปุ่ม และแถบเลื่อนเสมือนจริงมากกว่า ซึ่งมือใหม่อาจใช้งานได้ยาก โดย DAW แบบฟรีที่คล่องตัวกว่าเดิมอาจจะไม่มีดีไซน์แบบสกีวโอมอร์ฟแล้ว แต่ก็ยังอาจมีตัวแปรต่างๆ มากมายที่โปรดิวเซอร์มือใหม่ยังไม่รู้วิธีใช้งาน

ใช้เวลาศึกษาบทช่วยสอนเพื่อดูว่า DAW อาจเหมาะสำหรับการงานของคุณอย่างไร ท้ายที่สุดแล้ว คุณจะค้นพบคุณสมบัติอันยอดเยี่ยมที่คุณควรมองหาใน DAW ผ่านประสบการณ์ใช้งานจริง หรือดังที่ Boutillette แนะนำให้ “นั่งลงแล้วเริ่มลงมือ”