การถ่ายภาพ (20GB)
฿304.95/เดือน (รวม VAT)
Lightroom บนเดสก์ท็อปและมือถือ Lightroom Classic และ Photoshop บนเดสก์ท็อปและ iPad ดูข้อมูลเพิ่มเติม
สำรวจโลกแห่งการถ่ายภาพเหนือจริงและค้นพบวิธีสร้างสรรค์ภาพถ่ายบุคคลชวนฝัน ภาพถ่ายชีวิตประจำวันที่เร้าความรู้สึก รวมถึงภาพตลกๆ ในบางครั้งโดยใช้เอฟเฟกต์ Surreal
การถ่ายภาพเหนือจริงหรือภาพ Surreal นั้นถ่ายทอดแนวคิดจิตไร้สำนึก ความฝัน และความรู้สึกต่างๆ โดยสามารถพบเจอตัวอย่างภาพ Surreal ได้ในผลงานของช่างภาพร่วมสมัยอย่าง Brooke Shaden และ Kyle Thompson ช่างภาพเหล่านี้สร้างสรรค์ผลงานที่ดูราวกับเป็นความฝันโดยใช้วิธีสมัยใหม่เพื่อสานต่อประเพณีแบบ Surrealist เรียนรู้เพิ่มเติมว่าคุณสามารถถ่ายภาพ Surreal เพื่อถ่ายทอดจิตใต้สำนึกที่อยู่เหนือเหตุผลและแบบแผนต่างๆ ได้อย่างไร
ศิลปะลัทธิเหนือจริงหรือ Surrealism โดยรวมแล้วเป็นการเคลื่อนไหวทางศิลปะที่เริ่มต้นขึ้นในช่วงปี 1920 โดย Andre Breton ได้ตีพิมพ์หนังสือ Manifesto of Surrealism ในปี 1924 ซึ่งนิยามการเคลื่อนไหวนี้ว่าเป็น “ภาวะอัตโนมัติทางจิตอย่างแท้จริง ... โดยปราศจากการควบคุมจากหลักเหตุผล ไม่ยึดต่อปัจจัยด้านความงดงามหรือศีลธรรมใดๆ” ศิลปะแนว Surrealism ครอบคลุมรวมถึงละคร วรรณกรรม บทกวี และภาพวาดโดยศิลปินชื่อดังต่างๆ อย่างเช่น Rene Magritte และ Salvador Dali
การถ่ายภาพถือเป็นศิลปะแนว Surrealism อย่างหนึ่งตั้งแต่แรกเริ่ม บุคคลมีชื่อเสียงอย่าง Hans Bellmer และ Man Ray ถ่ายภาพแบบ Surrealist และในภายหลัง Philippe Halsman ได้สร้างสรรค์ผลงาน Dali Atomicus ขึ้นมาโดยใช้ภาพถ่ายเพื่อบันทึกภาพแบบ Surrealist ขณะเคลื่อนไหว การก้าวข้ามการถ่ายภาพเพียงเพื่อบันทึกเหตุการณ์ไม่ใช่เรื่องใหม่ในวงการถ่ายภาพ “แม้แต่ในยุคแรกเริ่มของการถ่ายภาพ” ช่างภาพ Tina Tryforos เล่า “ช่างภาพก็เริ่มใช้เครื่องมือของตนเองในลักษณะที่ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพียงเพื่อที่จะถ่ายทอดภาพตามความเป็นจริงอย่างเดียว” ศิลปะแนว Surrealism จึงเอื้อให้การถ่ายภาพที่ไม่ได้ถ่ายทอดภาพตามความเป็นจริงสามารถเติบโต
ศิลปะแนว Surrealism ต่างจากแนวคิดแบบ Abstract อย่างชัดเจน ทั้งศิลปะแนว Surrealism และแนวคิดแบบ Abstract ถือเป็นการแตกแยกออกมาจากศิลปะที่ถ่ายทอดภาพตามความเป็นจริงเพียงอย่างเดียว แต่ทั้งสองประเภทนี้มีแนวทางที่ต่างกัน แนวคิดแบบ Abstract จะใช้สี รูปร่าง พื้นผิว และองค์ประกอบอื่นๆ เพื่อเร้าความรู้สึกหรือความคิด แต่ศิลปะแนว Surrealism ใช้ภาพที่ยังมองออกว่าเป็นอะไร โดยมักจัดแสดงในลักษณะที่แปลกตา หากพบเห็นภาพลูกบาศก์ที่ดูเร้าอารมณ์ ภาพนั้นคือภาพ Abstract แล้วภาพอาคารที่ทั้งตัวอาคารประกอบไปด้วยมือมนุษย์ล่ะ ภาพนี้เป็นภาพ Surreal “ศิลปะแนว Surrealism มักจะเชื่อมโยงเข้ากับความเป็นจริงในทางใดทางหนึ่ง” Tryforos อธิบาย “แม้ภาพจะไม่จำเป็นต้องดูสมจริง แต่ภาพต้องชวนให้เชื่อได้”
“ภาพ Surreal มักจะมีลักษณะชวนฝันและเล่นกับจิตไร้สำนึกของคน” Tryforos กล่าว “ภาพเหล่านี้มักจะมีองค์ประกอบที่แตกต่างกันไป โดยนำมารวมกันอย่างเหนือความคาดหมาย” ภาพ Surreal มักจะมีองค์ประกอบที่พอมองออกว่าเป็นอะไรจากในชีวิตจริงแทบทุกกรณี ไม่ว่าจะเป็นนิ้วมือมนุษย์ นาฬิกา ผลแอปเปิล โดยนำมาจัดเรียงเข้าด้วยกันในลักษณะที่แปลกตา นาฬิกาอาจกำลังละลายอยู่อย่างในภาพ Persistence of Memory ของ Dali หรือแอปเปิลกาจกำลังลอยอยู่ในอากาศด้านหน้าใบหน้าของผู้ชายอย่างในภาพ The Son of Man ของ Magritte
ศิลปะแนว Surrealism เปลี่ยนโลกความจริงให้กลายเป็นโลกแห่งความฝัน “หากใช้ตรรกะพิจารณาก็อาจไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่นัก” Tryforos อธิบาย “บางทีภาพอาจชวนให้รู้สึกไม่สบายใจ หรือตกใจ หรือหวาดกลัว แต่ก็อาจดูครึกครื้นและตลกได้ด้วย” ภาพแบบ Surrealist อาจดูแล้วพอเข้าใจอยู่บ้าง แต่ก็เช่นเดียวกับภาพ Abstract ภาพเหล่านี้มุ่งถ่ายทอดแนวคิดออกมาเป็นหลักและต้องการกระตุ้นให้คุณรู้สึกอะไรบางอย่างลึกๆ ภายในตัวคุณโดยที่อาจไม่สามารถอธิบายได้
ศิลปิน Surrealist ยุคแรกๆ อย่าง Dali หรือ Breton คงจะต่อต้านความคิดที่ว่าศิลปะแนว Surrealism ควรมีกฎ แต่ก็เช่นเดียวกับศิลปะทุกๆ หมวดหมู่ ศิลปะแนวนี้มีธรรมเนียมปฏิบัติ แนวทาง และปัจจัยต่างๆ ให้ต้องคำนึงถึงหากคุณต้องการสร้างสรรค์ภาพให้สำเร็จ
การมีวัตถุประสงค์ ความรับผิดชอบ และความสามารถในการถ่ายทอดความคิดจะมีประโยชน์อย่างยิ่งในการสร้างสรรค์ภาพที่ชวนฉงนหรือแปลกตา “ผมชอบทำอะไรที่ดูเป็นไปไม่ได้ ซึ่งจริงๆ แล้วเป็นไปได้แน่ๆ เพราะคุณเห็นแล้วว่าผมทำได้” ช่างภาพและนักออกแบบ John Spannos เล่า “ทุกอย่างขึ้นอยู่กับการวางแผนอย่างละเอียดถี่ถ้วนว่าจะถ่ายภาพของคุณอย่างไร รวมทั้งการรู้ว่าคุณต้องการองค์ประกอบอะไรบ้างเพื่อก่อเป็นภาพฉบับสมบูรณ์ขึ้นมา”
ปัจจัยนี้ใช้ได้กับศิลปะแบบ Surrealist ประเภทต่างๆ ที่ใช้ความไร้แบบแผนอีกด้วย การดำเนินการต่างๆ อย่างการวาดลวดลายแบบ Surrealist Automatism หรือภาพตัดต่อแบบ Photomontage ที่ใช้ภาพซึ่งเลือกมาอย่างไม่ตั้งใจนักถือเป็นหลักปฏิบัติหลักๆ ของศิลปะแบบ Surrealist แต่วิธีเหล่านี้ยังคงใช้องค์ประกอบที่เป็นมนุษย์ จึงดูเป็นการสะท้อนถึงจิตไร้สำนึกของมนุษย์ไปกลายๆ โดย Tryforos เล่าว่า “ฉันปล่อยใจไปในกระบวนการ แต่ก็ยังควบคุมไปด้วย”
“คุณแหกกฎได้” Spannos อธิบาย “แต่คุณต้องแหกกฎอย่างมีชั้นเชิง การแหกกฎจะเป็นเรื่องบังเอิญไม่ได้ คุณต้องตั้งใจแหกกฎโดยมีวัตถุประสงค์”
ศิลปะ Surrealism ต้องอาศัยการแต่งภาพมากกว่าประเภทอื่นๆ ภาพตัดต่อและการนำภาพต่างๆ ที่ไม่น่ามองและขัดแย้งกันเองมาประกอบเข้าด้วยกันถือเป็นลักษณะของศิลปะ Surrealism ทว่าแม้แต่ในการสร้างสรรค์ภาพเหนือจินตนาการเช่นนี้ คุณก็ยังต้องสร้างภาพที่ชวนเชื่อหรือสมจริงขึ้นมา “ถ้าคุมองออกว่าภาพถูกตัดต่อ” Spannos กล่าว “แสดงว่าคุณไม่ได้ใช้เวลาอย่างเพียงพอเพื่อแต่งภาพ ศึกษาเกี่ยวกับซอฟต์แวร์ที่คุณใช้ เรียนรู้การทำงานของ Photoshop และกล้าลองใช้เครื่องมือ”
ข้อผิดพลาดในการแต่งภาพอาจส่งผลภาพแบบ Surrealist สูญเสียความสามารถในการกระตุ้นอารมณ์โดยรวม ความผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ หมายความว่าผู้ที่รับชมภาพของคุณจะหันไปโฟกัสกับลักษณะเชิงเทคนิคแทน ไม่ใช่องค์ประกอบที่เร้าอารมณ์ โดย Spannos อธิบายว่า “ผู้ที่รับชมภาพจะดูออกว่ามีข้อผิดพลาดในภาพ แม้จะไม่รู้ก็ตามว่าอะไรพลาดไป” เมื่อคุณรวมภาพเข้าด้วยกันหรือดัดแปลงภาพ คุณควรจัดการเงา แสง สีของแสง และปัจจัยอื่นๆ อย่างระมัดระวัง โดยตรวจสอบให้แน่ใจว่าแสงและอุณหภูมิของแสงนั้นสอดคล้องกันในตำแหน่งที่ควรเป็นเช่นนั้น ยิ่งคุณดำเนินการด้านเทคนิคได้ดียิ่งขึ้นเท่าไหร่ ผู้รับชมภาพของคุณก็จะเชื่อภาพอันแปลกตาที่คุณสร้างสรรค์ขึ้นมามากเท่านั้น
การพัฒนาฝีมือในฐานะศิลปิน Surrealist หมายความว่าคุณต้องดึงความแปลกประหลาดในตัวคุณออกมาใช้ รวมถึงรู้สึกเต็มใจที่จะถ่ายทอดจิตไร้สำนึกและความแปลกของคุณออกมา แต่ก็เช่นเดียวกับการถ่ายภาพทุกประเภท การฝึกฝน การศึกษา และการสั่งสมประสบการณ์ระดับมืออาชีพจะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จ “คุณจะไม่มีทางเก่งขึ้นถ้าคุณคิดว่าคุณทำทุกอย่างได้ดีอยู่แล้ว” Spannos อธิบาย “คุณต้องเปิดใจรับฟังคำวิจารณ์”
การติดต่อขอรับฟังคำวิจารณ์จากช่างภาพ Surrealist คนอื่นๆ อาจเป็นผลดี “ถ้าคุณมีช่างภาพที่ชื่นชอบ” Spannos แนะนำ “ลองติดต่อช่างภาพคนนั้น”
การเรียนรู้เกี่ยวกับประเพณีปฏิบัติ แบบ Surrealist ก็สามารถช่วยให้คุณเข้าใจและพัฒนาผลงานของคุณได้เช่นกัน “ทำความเข้าใจประวัติความเป็นมาและศึกษาศิลปินที่เคยใช้ศิลปะ Surrealism” Tryforos กล่าว “ทั้งในหลายร้อยปีก่อนและในอาทิตย์ที่ผ่านมา” การศึกษาค้นคว้า การปรึกษาช่างภาพคนอื่นๆ และการฝึกฝนจะช่วยให้คุณสามารถกลายเป็นส่วนหนึ่งของธรรมเนียมปฏิบัติที่มีอยู่มาอย่างยาวนานนับศตวรรษ รวมถึงใช้กล้องของคุณสำรวจโลกแห่งจิตไร้สำนึกต่อไปได้
ผสานรวมภาพถ่ายสองรูปของคุณเข้าด้วยกันเพื่อลุคที่ชวนให้เหลียวหลัง
พัฒนาทักษะการจัดองค์ประกอบภาพของคุณด้วยการเรียนรู้ศิลปะแห่งการถ่ายภาพนิ่ง
ค้นหาสัจธรรมของคุณในการถ่ายภาพวิจิตรศิลป์
ทำตามความชอบของคุณและสำรวจเลเยอร์ทางแนวคิดในการสร้างภาพถ่ายเชิงศิลปะ
รวมรูปภาพเข้าด้วยกันเพื่อสร้างสรรค์ภาพอันน่าตื่นตาตื่นใจ
ดูวิธีที่คุณสามารถรวมรูปภาพเข้าด้วยกันใน Photoshop เพื่อสร้างเลย์เอาต์และภาพคอมโพสิต
ค้นหาแผน Creative Cloud ที่เหมาะกับคุณ
฿304.95/เดือน (รวม VAT)
Lightroom บนเดสก์ท็อปและมือถือ Lightroom Classic และ Photoshop บนเดสก์ท็อปและ iPad ดูข้อมูลเพิ่มเติม
Photography (20GB)
Lightroom บนเดสก์ท็อปและมือถือ Lightroom Classic และ Photoshop บนเดสก์ท็อปและ iPad ดูข้อมูลเพิ่มเติม
฿304.95/เดือน (รวม VAT)
฿876.33/เดือน (รวม VAT)
รับ Photoshop บนเดสก์ท็อปและ iPad ในฐานะส่วนหนึ่งของ Creative Cloud ดูข้อมูลเพิ่มเติม
Adobe Photoshop Single App
รับ Photoshop บนเดสก์ท็อปและ iPad ในฐานะส่วนหนึ่งของ Creative Cloud ดูข้อมูลเพิ่มเติม
฿876.33/เดือน (รวม VAT)
฿1,143.83/เดือน (รวม VAT)
รับ Photoshop บนเดสก์ท็อปและ iPad รวมทั้งคอลเลกชันแอปสร้างสรรค์ทั้งหมด ดูข้อมูลเพิ่มเติม
All Apps
รับ Photoshop บนเดสก์ท็อปและ iPad รวมทั้งคอลเลกชันแอปสร้างสรรค์ทั้งหมด ดูข้อมูลเพิ่มเติม
฿1,143.83/เดือน (รวม VAT)
฿761.84/mo. (รวม VAT)
ประหยัดกว่า 65% สำหรับคอลเลกชันแอป Creative Cloud ทั้งหมด ดูข้อมูลเพิ่มเติม
นักเรียนและครู
ประหยัดกว่า 65% สำหรับคอลเลกชันแอป Creative Cloud ทั้งหมด ดูข้อมูลเพิ่มเติม
฿761.84/เดือน (รวม VAT)