Lightroom (1TB)
รับ Lightroom บนเดสก์ท็อปและมือถือพร้อมบริการอื่นๆ จาก Creative Cloud ในราคาเพียง
฿380.92/เดือน (รวม VAT)
วิธีการถ่ายภาพตัวแบบให้ออกมาดูดีที่สุด
หากคุณสร้างความสัมพันธ์ที่จริงใจกับตัวแบบของคุณ คุณก็มาไกลเกินครึ่งทางจนเกือบจะได้ภาพถ่ายบุคคลที่ดีแล้ว
ช่างถ่ายภาพบุคคลมือโปร Anthony Pidgeon อธิบายว่า "ภาพถ่ายบุคคลที่ดีขึ้นอยู่กับความเข้าอกเข้าใจเป็นส่วนใหญ่ นั่นไม่ใช่มุมมองด้านเทคนิคเกี่ยวกับการถ่ายภาพ แต่ผมคิดว่าในภาพถ่ายบุคคล สิ่งนี้เป็นหัวใจสำคัญจริงๆ เพราะตามหลักแล้วคุณกำลังร่วมมือกัน ตัวแบบของคุณจะมอบบางสิ่งให้กับคุณ และคุณจะให้เกียรติสิ่งนั้นและหาวิธีถ่ายทอดมันออกมา เป็นเรื่องของความไว้เนื้อเชื่อใจ ได้แก่ พวกเขาเชื่อใจคุณหรือไม่ คุณเชื่อใจให้ตัวแบบอยู่กับคุณไปจนจบกระบวนการหรือไม่ เริ่มเกิดความเข้าอกเข้าใจขึ้นหรือยัง จากนั้นคุณก็สามารถหาวิธีที่ดีที่สุดในการถ่ายทอดสิ่งนั้นออกมาด้วยการจัดแสงและท่าโพสต์ รวมถึงองค์ประกอบภาพ"
Anna Goellner ผู้เชี่ยวชาญด้านการถ่ายภาพงานแต่งงานให้ความเห็นไว้ดังนี้ "คุณกำลังพยายามบอกเล่าเรื่องราว คุณกำลังพยายามแสดงให้เห็นว่าคนคนนี้เป็นใคร"
แล้วคุณจะเริ่มสร้างช่วงเวลาแห่งความร่วมมือได้อย่างไร การเตรียมการถ่ายภาพที่ดีนั้นต้องใช้เวลา ดังนั้นดูให้แน่ใจว่าคุณได้เผื่อเวลาไว้ให้ตัวเองสักหน่อย นักออกแบบและช่างภาพ Shawn Ingersoll แนะนำว่าเมื่อวางตารางการถ่ายภาพ คุณควรปล่อยให้มีเวลาเผื่อไว้อย่างน้อยสักหนึ่งชั่วโมง เขาอธิบาย "มันอาจจะเป็นช่วง 30 นาทีแรกก่อนที่คุณจะได้ทำความรู้จักกันและกันจริงๆ"
Pidgeon ให้ข้อสังเกตว่าการถ่ายภาพทุกครั้งจะแตกต่างกันออกไป ดังนั้นคุณจะต้องคอยดูตัวแบบอยู่เสมอ บางคนก็พร้อมจะถ่ายภาพมากกว่าคนอื่นๆ "ผมคิดว่ามันขึ้นอยู่กับบุคคลนั้น พวกเขากำลังคิดเห็นอย่างไรอยู่ กำลังเกิดอะไรขึ้น พวกเขาอยากอยู่ที่นั่นหรือเปล่า หลายๆ ครั้ง พวกเขาก็ไม่อยากอยู่ที่นั่น" เขากล่าว "ส่วนใหญ่แล้ว พวกเขามีงานห้าอย่างวางเรียงอยู่ก่อนงานของคุณ แล้วพวกเขาก็มีงานอีกห้าอย่างรออยู่หลังงานของคุณ แล้วพวกเขาก็แค่จ้องมองนาฬิกา บางคนจะบอกว่า 'ใช่แล้ว มาทำอะไรเจ๋งๆ กันเถอะ' และบางคนก็จะบอกว่า 'มาทำให้จบๆ กันเถอะ' คนบางคนก็ขี้อายเอามากๆ การทำความเข้าใจความรู้สึกว่าพวกเขาให้ความร่วมมือมากแค่ไหนเป็นตัวกำกับการถ่ายภาพส่วนใหญ่"
เมื่อคุณทำความเข้าใจบุคคลที่คุณกำลังทำงานด้วยได้อย่างถ่องแท้แล้ว จากนั้นก็ให้หันไปสนใจห้อง Pidgeon แนะนำให้ถามตัวคุณเองว่า "มีแหล่งแสงธรรมชาติหรือเปล่า นั่นเป็นสถานการณ์ที่ผมจะใช้แสงที่เข้มชัดเจน แสงที่นุ่มนวล แสงแบบตรง ไม่ก็แสงแบบอ้อมหรือเปล่า อะไรที่จะบอกเล่าเรื่องราวนี้
ความรู้สึกเร่งรีบเกิดขึ้นได้ง่ายดายมากในเวลาที่คุณถ่ายภาพของใครสักคน แต่หนึ่งในหัวใจสำคัญของการถ่ายภาพบุคคลที่ดีก็คือการให้เวลาเพื่อสร้างความสัมพันธ์และพินิจพิจารณา ช่างถ่ายภาพงานแต่งงานและงานหมั้น Naba Zabih กล่าวว่าแม้แต่ท่ามกลางความวุ่นวายในงานใหญ่ๆ การใช้เวลาเพื่อจัดองค์ประกอบภาพที่คุณจะภูมิใจก็เป็นเรื่องสำคัญ เธอกล่าวต่อว่า "โดยเฉพาะเมื่อทุกอย่างอยู่ในรูปแบบดิจิทัลและดำเนินไปอย่างว่องไวมากๆ แค่หยุดแล้วก็จัดองค์ประกอบ และคิดถึงรูปภาพก่อนที่คุณจะถ่ายภาพจริงๆ" จดจำไว้ว่าในการถ่ายภาพบุคคล คุณมีตัวแปรที่ต้องคำนึงถึงเพิ่มขึ้นมาอีก ซึ่งก็คือ "ผู้คนก็คือผู้คนนั่นแหละ" Zabih กล่าว "ดังนั้นการถ่ายภาพพวกเขาจะต้องยากกว่าการถ่ายภาพอะไรที่อยู่นิ่งๆ อยู่แล้ว พวกเขาจะขยับตัว พวกเขากะพริบตา "
มีส่วนประกอบมากมายในการถ่ายภาพบุคคลที่ต้องพึ่งพาสัญชาตญาณมากกว่าการควบคุมทางเทคนิค ดังนั้นหากคุณสามารถระบุหรือจัดแสงที่ดีให้กับการถ่ายภาพบุคคลได้ก็จะเป็นประโยชน์ตั้งแต่เริ่มต้น หากคุณกำลังถ่ายภาพในสตูดิโอ คุณจะต้องตัดสินใจเรื่องต่างๆ เหล่านี้ไว้ล่วงหน้าหลายเรื่อง
Ingersoll แนะนำว่า "ถ้าคุณต้องการภาพถ่ายบุคคลที่มี Contrast สูงๆ และขับเน้นอารมณ์ คุณอาจจะใช้แสงแบบตรงมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นแสงแดดหรือแสงเทียมก็ตามที ถ้าคุณมองหาภาพที่ขับเน้นอารมณ์น้อยกว่านั้น ซึ่งดูเหมือนกับภาพถ่าย Headshot แบบมืออาชีพมากกว่า คุณจะต้องใช้แสงที่มีการกระจายแสงมากกว่า โดยใช้แหล่งกำเนิดแสงหลายๆ แหล่ง คุณจะมีแหล่งกำเนิดแสงหลักหนึ่งแหล่ง โดยปกติแล้วมักจะเป็นแหล่งกำเนิดแสงที่สว่างที่สุด และแสงนั้นจะทำให้ใบหน้าด้านหนึ่งของตัวแบบดูสว่างขึ้น จากนั้นคุณจะต้องทำให้ใบหน้าอีกด้านสว่างขึ้น ดังนั้นคุณจะต้องมีแหล่งกำเนิดแสงเส้นที่สอง ไม่เช่นนั้นคุณจะได้ภาพที่ดูขับเน้นอารมณ์มากๆ จะใช้แสงดวงที่สามหรือไม่ใช้ก็ได้ บางครั้งคุณก็ใช้แสงนั้นเพื่อทำให้ผมของพวกเขาหรือฉากหลังสว่างขึ้น ในกรณีที่มีฉากหลัง"
"เมื่ออายุของคนมากขึ้น คุณต้องการที่จะทำให้แสงดูอ่อนลงสักหน่อย เว้นเสียแต่ว่าคุณจะต้องการขับเน้นพื้นผิวบนผิวเนื้อของคนคนนั้นให้ดูโดดเด่นขึ้นมา"
Pidgeon แนะนำว่า "เมื่ออายุของคนมากขึ้น คุณต้องการที่จะทำให้แสงดูอ่อนลงสักหน่อย เว้นเสียแต่ว่าคุณจะต้องการขับเน้นพื้นผิวบนผิวเนื้อของคนคนนั้นให้ดูโดดเด่นขึ้นมา แต่ถ้าคนคนนั้นมีแผลเป็นจากสิวหรือริ้วรอย โดยปกติแล้วคุณจะไม่ถ่ายภาพโดยใช้แสงที่ขับเน้นมากนัก เว้นแต่ว่านั่นจะเป็นส่วนหนึ่งของตัวตนของพวกเขาจริงๆ ผมคิดว่าส่วนหนึ่งของการเลือกใช้แสงคือการถามว่า 'สิ่งนี้จะดีกับพวกเขาหรือเปล่า การแสดงตัวตนของพวกเขาออกมาให้ดูดีที่สุดนี่น่ะ พวกเขาเป็นคนที่คล่องแคล่วเปี่ยมไปด้วยพลังหรือไม่ พวกเขามีจุดแข็งหรือไม่ แบบนี้เหมาะสมหรือไม่"
เขาเตือนว่าช่างถ่ายภาพบุคคลจะต้องเข้าใจวิธีการปรับแสงให้สมดุล "มือใหม่จำนวนมากมักจะใช้แสงแฟลชที่แรงเกินไป แล้วคุณก็จะได้ภาพที่ดูเหมือนภาพถ่ายเวลาโดนจับกุม" เขากล่าว "ว่าง่ายๆ ก็คือคุณกำลังทำให้มีการเปิดรับแสงสองจุดพร้อมๆ กัน เมื่อคุณปรับสมดุลแสงหลักและแสงเติม เมื่อคุณเริ่มเข้าใจมากขึ้นว่าการปรับสมดุลนั้นต้องทำอย่างไร คุณก็สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรๆ ได้เล็กน้อย แทนที่จะพูดแค่ว่า 'ก็ได้ ฉันจะสาดแสงใส่หรือแค่เอาแสงออกไป"
หากคุณกำลังถ่ายภาพบุคคลกลางแจ้งโดยใช้แสงธรรมชาติเป็นส่วนใหญ่ คุณจำเป็นจะต้องใช้ชุดเครื่องมือที่แตกต่างออกไปนิดหน่อย ประสบการณ์ของ Goellner ในงานแต่งงานกลางแจ้งได้สอนเธอว่าเวลาเที่ยงเป็นเวลาที่แย่ที่สุดในการถ่ายภาพ เธออธิบายว่า "ดวงอาทิตย์อยู่บนหัวตรงๆ แล้วคุณก็จะได้เงาที่ใต้ดวงตาพวกเขา ฉันกำลังมองหาแสงที่สม่ำเสมอกว่านั้นสำหรับภาพถ่ายบุคคล หากเป็นตอนเที่ยง ซึ่งช่วงเวลามากมายในระหว่างงานแต่งงานก็อยู่ในเวลานี้ ให้คุณมองหาต้นไม้อยู่เสมอ"
Goellner ถือว่าเคล็ดลับที่สำคัญที่สุดสำหรับการถ่ายภาพบุคคลก็คือการทำให้โฟกัสบนดวงตาของตัวแบบออกมาคมชัด "ถ้าคุณโฟกัสไปที่หน้าผากหรือผมหน้าม้าของใครสักคน แล้วดวงตาของพวกเขาหลุดโฟกัส การทำแบบนั้นจะทำให้ภาพพังโดยอัตโนมัติ" เธอกล่าว "เว้นเสียแต่ว่าคุณจะกำลังทำตัวเป็นศิลปินมากๆ" นอกเหนือไปจากคำเตือนง่ายๆ แต่สำคัญยิ่งนี้แล้ว คุณจะต้องพิจารณาเลนส์ที่คุณกำลังใช้งานด้วย
Goellner กล่าวว่าเลนส์ที่ดีที่สุดสำหรับการถ่ายภาพบุคคลจะเปิดรับแสงได้กว้างมาก "รูรับแสงที่กว้างมากๆ จะทำให้แสงเข้าไปได้เยอะ และทำให้พื้นหลังออกมาดูเบลอได้" เธอกล่าว เลนส์มุมกว้างและระยะชัดลึกที่ตื้นจะช่วยให้คุณรักษาโฟกัสให้อยู่ที่ตัวแบบของคุณได้ แทนที่ตัวแบบจะกลืนไปกับองค์ประกอบพื้นหลังซึ่งอาจจะมีความสำคัญน้อยกว่า เลนส์ที่ใช้ถ่ายภาพบุคคลได้ดีที่สุดสำหรับ Goellner คือเลนส์ 85 มม.
Derek Boyd ช่างภาพที่อยู่ในเขตแปซิฟิกนอร์ธเวสต์แนะนำให้ลองใช้ความยาวโฟกัสที่ยาวขึ้นไปอีก "ถ้าคุณมีความยาวโฟกัสที่ยาวและคุณอยู่ใกล้กับตัวแบบ คุณจะมีระยะชัดลึกที่ตื้นมากๆ" เขากล่าว "ดังนั้นเลนส์ที่ยาว 200 มิลลิเมตรจึงดีสำหรับงานถ่ายภาพบุคคล โดยปกติแล้ว คุณถ่ายภาพในระยะที่เกือบจะใกล้ที่สุดเท่าที่คุณถ่ายได้ด้วยเลนส์นั้น และภาพออกมาดูดีเพราะพื้นหลังได้รับการเบลอออกไป และการบีบอัดที่เกิดจากเลนส์ Telephoto การบีบอัดนั้นทำให้เกิดการบิดเบี้ยวเล็กๆ น้อยๆ ที่ทำให้ผู้คนดูดีขึ้นมากๆ มันทำให้จมูกดูเล็กลงนิดหน่อย และทำให้ดวงตาดูดีขึ้นนิดหน่อย มันก็แค่ทำให้ดูดีขึ้นมากๆ
"มันอธิบายได้ยาก" Boyd กล่าวต่อ "แต่ทุกครั้งที่คุณเห็นภาพถ่ายที่สวยเป๊ะอย่างภาพถ่ายที่เน้นแสดงความงดงามของบุคคล ภาพนั้นมักจะถ่ายด้วยความยาวโฟกัสที่ยาวมากๆ แทบจะทุกครั้ง ทีนี้ในทางกลับกัน คุณมีความยาวโฟกัสที่กว้าง ดังนั้นเลนส์นั้นอาจจะเป็นอะไรก็ตามที่ยาว 30 มิลลิเมตรหรือต่ำกว่านั้น ถ้าคุณเข้าไปใกล้ใครสักคนมากๆ โดยใช้เลนส์มุมกว้าง มันจะทำให้ศีรษะของพวกเขาดูใหญ่มากๆ และทุกอย่างที่อยู่ในพื้นหลังจะดูเล็กมากๆ และคุณเกือบจะได้เอฟเฟกต์แบบ Fish-Eye มันไม่ทำให้ดูดีขึ้น คุณสามารถใช้มันกับการถ่ายภาพบุคคลก็ได้ แต่มันดูตลก"
ข้อได้เปรียบในที่นี้คือความสามารถในการเลือกจุดโฟกัส Boyd อธิบายว่า "ก่อนที่ผมจะถ่ายภาพบนกล้องจริงซึ่งเป็นกล้อง SLR ผมจะถ่ายภาพแบบเล็งแล้วถ่ายเฉยๆ โดยถ่ายทุกอย่างที่อยู่ในโฟกัส ผมคิดว่านั่นคือความแตกต่างระหว่างการถ่ายภาพแบบเร็วๆ กับภาพถ่ายที่เป็นศิลปะจริงๆ การขับเน้นตัวแบบของคุณให้โดดเด่น นั่นไม่ได้ความว่าคุณจะต้องใช้ระยะชัดลึกที่ตื้น แต่ภาพถ่ายบุคคลในสไตล์มืออาชีพจะต้องใช้ระยะชัดลึกที่ตื้น และครั้งแรกที่คุณทำมันด้วยตัวเอง มันเหมือนเวทมนตร์เลย มันดูเหมือนบางอย่างที่ผมมักจะชอบมากๆ อยู่เสมอ ผมมักจะชอบภาพถ่ายบุคคลที่เบลอพื้นหลังออกไปจนหมดเกลี้ยง และดวงตาสวยงามคมชัดที่สะท้อนแสงดูวับวาว ประกายสวยๆ ในดวงตา"
ช่างภาพหลายคนจะเริ่มด้วยการใช้โหมดโปรแกรมอัตโนมัติในการถ่ายภาพ สิ่งเหล่านั้นอาจจะเป็นประโยชน์ในตอนที่คุณเริ่มถ่ายภาพ ช่วยให้คุณมีเวลาในสร้างความสัมพันธ์กับตัวแบบและมุ่งความสนใจไปที่การจัดแสง แต่ Pidgeon ก็เตือนว่าวิธีเหล่านั้นอาจจะทำให้ความก้าวหน้าของคุณหยุดชะงักในท้ายที่สุด
"โปรแกรมสามารถทำเรื่องพื้นฐานให้คุณได้ แต่ผมไม่คิดว่าคุณจะสามารถใช้ความคิดสร้างสรรค์ได้มากนัก" Pidgeon กล่าว "โปรแกรมมีไว้เพื่อทำให้คุณอยู่ภายในขอบเขตของ 'แบบนี้จะใช้ได้' แต่ถ้าคุณจะเริ่มถ่ายภาพ คุณจะต้องการมากกว่าสิ่งที่ใช้ได้ คุณจะต้องใช้การปรับแบบแมนวลเพื่อให้ได้ความต่างเล็กๆ น้อยๆ นั่น และนั่นน่ากลัว คนจำนวนมากคิดว่า 'นี่ โหมดโปรแกรมแบบนี้ก็ใช้การได้ดีนี่ ฉันได้ภาพถ่ายเจ๋งๆ ในสถานการณ์แบบนี้ ฉันไม่อาจจะเลิกใช้เลย แล้วในทันใดนั้นคุณก็ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ต่างออกไป และมันใช้ไม่ได้ผล โปรแกรมทำงานแทนคุณ คำนวณทุกอย่างให้คุณ และตัดสินใจหลายอย่างแทนคุณ ดังนั้นหลังจากนั้นคุณก็จะต้องย้อนกลับไปดูว่าจะทำยังไงให้การเปิดรับแสงออกมาใช้ได้" การเรียนรู้การตั้งค่ากล้องแบบแมนวลในแบบต่างๆ เหล่านั้นและการที่สามารถตัดสินใจในเรื่องที่ต่างออกไปเล็กๆ น้อยๆ ได้ทำให้คุณสามารถถ่ายภาพบุคคลได้อย่างสร้างสรรค์และเป็นศิลปะมากขึ้นกว่าเดิมมาก
และไม่มีความจำเป็นที่จะต้องหยุดอยู่ที่การปรับวิธีใช้การเปิดรับแสงให้ดีขึ้น Alex Tan ช่างภาพและนักออกแบบที่อยู่ในลอสแอนเจลิสสนับสนุนให้ทดลองมากขึ้นไปอีก เขากล่าวว่า "ผมคิดว่าการเติมสิ่งต่างๆ ลงไปในเฟรมเป็นเรื่องน่าสนใจจริงๆ ซึ่งก็คือตอนที่มีส่วนต่างๆ ของรูปภาพที่ไม่มีความจำเป็นวางอยู่เต็มเฟรมหรือมีตัวแบบที่อยู่เยื้องมาในบริเวณเบื้องหน้ามากๆ และอาจจะกินพื้นที่ถึงสามส่วนของเฟรม ผมรู้สึกเหมือนว่าในช่วงหลังมานี้ผมได้เปลี่ยนอะไรไปเยอะเลย จากการถ่ายภาพคนโดยจัดวางให้คนอยู่กึ่งกลางเฟรมอย่างสมบูรณ์แบบบนพื้นหลังที่โล่งมากๆ ไปสู่ 'จะดูเป็นยังไงถ้ากล้องอยู่ในห้องนี้จริงๆ และกล้องอยู่หลังใครบางคนหรือถ่ายผ่านเหนือหัวไหล่ของใครบางคนไป'"
สิ่งเหล่านี้ทั้งหมดทำให้นึกย้อนไปถึงส่วนประกอบพื้นฐานของการถ่ายภาพบุคคล Tan กล่าวว่า "นี่อาจจะเป็นกฎทั่วไปที่ใช้ได้ผลสำหรับการถ่ายภาพส่วนใหญ่ นั่นก็คือการเล่าเรื่องคือสิ่งสำคัญที่สุด นั่นคือเหตุผลที่เราสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ เหตุผลที่ทำให้เราออกแบบ เหตุผลที่ทำให้เราสร้างภาพยนตร์ เหตุผลที่ทำให้เราเขียน และผมก็แค่อยากจะกระตุ้นเตือนให้ผู้คนไม่ลืมเรื่องนั้นจริงๆ"
Zabih เน้นย้ำถึงแนวคิดเดียวกันนี้โดยกล่าวว่า "การถ่ายภาพบุคคลน่าสนใจ เพราะคล้ายกับว่าคุณมักจะโยนกฎเหล่านั้นทิ้งไป ถ้าฉันสามารถจับอารมณ์บางอย่างในภาพถ่ายได้ ฉันจะรู้สึกว่ามันเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่ ฉันจะถ่ายภาพโดยที่ฉันจงใจทำให้ภาพถ่ายยุ่งเหยิง ในตอนถ่ายภาพฉันลดความเร็วชัตเตอร์ลงหรือถ่ายสิ่งต่างๆ แบบครอบตัดด้วยวิธีที่โดยปกติแล้วฉันจะไม่ทำ และตราบใดที่มีอารมณ์ปรากฎอยู่ในภาพถ่าย ภาพเหล่านั้นจะกลายเป็นภาพโปรดของฉัน สิ่งที่เจ๋งเกี่ยวกับการถ่ายภาพบุคคลก็คือภาพนั้นไม่จำเป็นต้องเป็นรูปภาพที่ดีที่สุดถึงจะเป็นรูปภาพที่่สมบูรณ์แบบได้"
โลกแห่งภาพถ่ายบุคคลนั้นกว้างใหญ่และมีความหลากหลาย หากคุณกำลังมองหาที่เหมาะๆ ที่จะเริ่ม ลองสำรวจสไตล์ภาพถ่ายบุคคลสองสามแบบที่แตกต่างกันเพื่อดูว่าแบบไหนใช้ได้ดีที่สุดสำหรับคุณ
การถ่ายภาพตนเองเป็นวิธีแสดงออกถึงตัวตนในแบบที่สร้างสรรค์ และการถ่ายภาพตนเองยังเป็นวิธีที่ดีในการฝึกฝนทักษะการถ่ายภาพบุคคลของคุณให้สมบูรณ์แบบได้อีกด้วย เมื่อคุณเป็นทั้งตัวแบบและช่างภาพพร้อมๆ กัน คุณสามารถใช้เวลาในขณะที่ปรับการตั้งค่ากล้อง ลองการจัดแสงในรูปแบบที่แตกต่างกัน และทดลองกับไอเดียสร้างสรรค์ต่างๆ ได้
ถ่ายภาพ Headshot แบบมืออาชีพ
ด้วยการถ่ายภาพ Headshot คุณสามารถใส่ความสร้างสรรค์ในสภาพแวดล้อมแบบมืออาชีพได้ ในขณะที่ภาพถ่าย Headshot สำหรับองค์กรมักจะต้องทำตามสไตล์หรือวิธีการมองภาพที่เฉพาะเจาะจง คุณสามารถค้นพบวิธีการที่มีเอกลักษณ์ได้เสมอเพื่อช่วยให้คนแต่ละคนดูโดดเด่นและดึงเอาบุคลิกไปใส่ไว้ในภาพของคนเหล่านั้นได้
ตั้งแต่ภาพถ่ายบุคคลแบบวิจิตรศิลป์ไปจนถึงการถ่ายภาพแฟชั่นล้ำยุค การถ่ายภาพที่เน้นแสดงความงดงามของบุคคลในภาพขับเน้นบุคลิก ทัศนคติ และรูปลักษณ์ของตัวแบบให้โดดเด่น เรียนรู้วิธีการวางแผนถ่ายภาพที่เน้นแสดงความงดงามของบุคคลในภาพ ปรับแต่งรูปภาพด้วยเครื่องมือแก้ไขในกระบวนการหลังการถ่ายภาพ แล้วจากนั้นก็เพิ่มภาพถ่ายที่เน้นแสดงความงดงามของบุคคลในภาพลงในพอร์ตโฟลิโอของคุณ
ไม่ว่าคุณจะเป็นมือโปรผู้ช่ำชองหรือเป็นมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มถ่ายภาพ การถ่ายภาพบุคคลเป็นวิธีการที่แสนวิเศษในการสร้างทักษะและบ่มเพาะความสร้างสรรค์ ลองดูด้วยตัวคุณเอง และจดจำไว้ว่าให้รักษาให้โฟกัสอยู่ที่ตัวแบบของคุณอยู่เสมอและขับเน้นบุคลิกของตัวแบบออกมา
แก้ไขรูปภาพอย่างง่ายดายด้วย Preset ของ Lightroom อย่างSuper Resolution แชร์ภาพถ่ายอย่างง่ายดายจากทุกอุปกรณ์ และเข้าถึงโปรเจกต์ต่างๆ ของคุณได้ทุกที่ด้วยการจัดการพื้นที่จัดเก็บภาพถ่ายบนระบบคลาวด์
ทำความเข้าใจระยะชัดลึกที่ตื้น
สำรวจวิธีที่ระยะชัดลึกที่ตื้นสามารถเพิ่มมิติให้ภาพถ่ายของคุณ
พัฒนาทักษะการจัดองค์ประกอบภาพถ่ายเพื่อถ่ายภาพให้สวยงามยิ่งขึ้น
พัฒนาทักษะการจัดองค์ประกอบภาพของคุณด้วยการเรียนรู้ศิลปะแห่งการถ่ายภาพนิ่ง
เดินทางสู่โลกใบใหม่และทำให้ตัวแบบขนาดเล็กของคุณดูใหญ่โตเกินจริงด้วยเคล็ดลับการถ่ายภาพมาโคร
แก้ไข จัดระเบียบ จัดเก็บ และแบ่งปันภาพถ่ายได้จากทุกที่
ใช้งานฟรี 7 วัน จากนั้น ฿380.92/เดือน
รับ Lightroom, Lightroom Classic, Photoshop และพื้นที่เก็บข้อมูลบนระบบคลาวด์ 20GB ทดลองใช้ฟรี 7 วัน จากนั้น ฿304.95/เดือน
รับแอปสร้างสรรค์สำหรับเดสก์ท็อปและมือถือทั้งหมดมากกว่า 20 แอป
ใช้งานฟรี 7 วัน จากนั้น ฿1,143.83/เดือน
Lightroom (1TB)
รับ Lightroom บนเดสก์ท็อปและมือถือพร้อมบริการอื่นๆ จาก Creative Cloud ในราคาเพียง
฿380.92/เดือน (รวม VAT)
Lightroom (1TB)
รับ Lightroom บนเดสก์ท็อปและมือถือพร้อมบริการอื่นๆ จาก Creative Cloud ในราคาเพียง
฿380.92/เดือน (รวม VAT)
Creative Cloud photography (20GB)
รับ Lightroom สำหรับเดสก์ท็อปและมือถือ, Lightroom Classic รวมถึง Photoshop บนเดสก์ท็อปและ iPad
฿380.92/เดือน (รวม VAT)
Creative Cloud photography (20GB)
รับ Lightroom สำหรับเดสก์ท็อปและมือถือ, Lightroom Classic รวมถึง Photoshop บนเดสก์ท็อปและ iPad
฿380.92/เดือน (รวม VAT)
นักเรียนและครู
ประหยัดกว่า 60% สำหรับแอป Creative Cloud กว่า 20 รายการ — รวมถึง Lightroom
฿761.84/เดือน (รวม VAT)
ธุรกิจ
รับ Lightroom และแอป Creative Cloud ทั้งหมด รวมถึง ฟีเจอร์ธุรกิจสุดพิเศษ
฿2,211.69/เดือน (รวม VAT)
ธุรกิจ
รับ Lightroom และแอป Creative Cloud ทั้งหมด รวมถึง ฟีเจอร์ธุรกิจสุดพิเศษ
฿2,211.69/เดือน (รวม VAT)