Lightroom (1TB)
รับ Lightroom บนเดสก์ท็อปและมือถือพร้อมบริการอื่นๆ จาก Creative Cloud ในราคาเพียง
฿380.92/เดือน (รวม VAT)
เจาะลึกเข้าไปในโลกแห่งการถ่ายภาพมาโครด้วยเคล็ดลับเกี่ยวกับวิธีการที่จะทำให้ตัวแบบเล็กจิ๋วดูใหญ่โตเกินจริงได้ดีที่สุด
การถ่ายภาพมักเกี่ยวข้องกับเรื่องของมุมมองเสมอ ตัวแบบของคุณคือใคร และคุณกำลังถ่ายภาพตัวแบบที่ไหน แสงเป็นอย่างไร แล้วแสงอาจจะส่งผลอย่างไรกับภาพถ่ายบ้าง คุณกำลังถ่ายภาพจากมุมด้านบนหรือด้านล่าง ตัวแบบกำลังเคลื่อนไหวหรือไม่ หรือคุณกำลังขยับเปลี่ยนที่ในขณะที่คุณหามุมที่เหมาะสมในการถ่ายภาพภูมิทัศน์ที่อยู่นิ่งกับที่หรือเปล่า แล้วจากนั้นคุณก็สามารถเริ่มตั้งคำถามเกี่ยวกับอุปกรณ์ได้ คุณถ่ายภาพโดยใช้เลนส์ไพรม์หรือถ่ายภาพจากระยะไกลโดยใช้เลนส์Telephoto หรือว่านี่เป็นกิจกรรมสด และคุณต้องการเตรียมตัวโดยใช้เลนส์เพียงไม่กี่ตัวหรือไม่
"โลกจะแปลกออกไปเมื่อคุณถ่ายภาพในระดับมาโคร"
ถามคำถามเหล่านี้กับตัวคุณเอง และการคิดใคร่ครวญโดยใช้หลักตรรกะเป็นทักษะที่คุณต้องการสร้างในฐานะช่างภาพมือใหม่ แต่ความต้องการในเรื่องนั้นเพิ่มขึ้นราวกับถูกขยายขนาดจริงๆ เมื่อคุณกำลังเปลี่ยนมุมมองไปจากภาพถ่ายส่วนใหญ่ที่คุณถ่ายเพื่อพยายามถ่ายภาพมาโครในระดับที่เล็กจิ๋วมากๆ เช่น การถ่ายภาพแมลงและวัตถุขนาดเล็กที่อยู่ในอีกโลกหนึ่งอื่นๆ "โลกจะแปลกออกไปเมื่อคุณถ่ายภาพในระดับมาโคร" ช่างภาพและอาจารย์อย่าง Ben Long เล่า
เตรียมตัวผจญภัยไปในดินแดนที่ไม่รู้จัก
การถ่ายภาพมาโครให้ความสำคัญกับการแสดงให้เห็นว่าตัวแบบมีขนาดใหญ่โตเกินกว่าที่เห็นในความเป็นจริง เป็นการถ่ายภาพสิ่งต่างๆ ที่มีขนาดเล็กในระยะใกล้มากๆ
ภาพถ่ายแมลงขนาดห้าคูณเจ็ดนิ้วแบบ Full-Frame และภาพถ่ายผลิตภัณฑ์ขนาดสี่นิ้วของคอร์นเฟลกที่มีขนาดใหญ่กว่าขนาดจริงมาก ทั้งสองภาพเป็นตัวอย่างของการถ่ายภาพมาโคร (และในขณะที่หลักการนี้อาจจะนำไปใช้กับภาพที่ถ่ายผ่านกล้องจุลทรรศน์ได้ด้วย แต่การถ่ายภาพรูปแบบดังกล่าวอยู่ในขอบเขตของการถ่ายภาพ Photomic หรือภาพถ่ายที่ได้จากกล้องจุลทรรศน์ซึ่งอยู่นอกเหนือขอบเขตของการถ่ายภาพมาโคร)
ในการถ่ายภาพมาโคร โลกที่คุณรู้จักนั้นไม่มีอยู่อีกต่อไป และโลกใหม่ก็ได้ปรากฏออกมา
"ที่ที่ดีจริงๆ ในการเริ่มต้นถ่ายภาพมาโครก็คือเริ่มถ่ายภาพโดยใช้ของในตู้เย็น" Long แนะนำ "ผลเบอร์รีดูน่าตื่นตาตื่นใจเมื่อคุณเข้าไปดูในระยะใกล้มากๆ พื้นผิวมีลักษณะที่น่าสนใจมากๆ รวมทั้งมีขนอยู่ด้านบนด้วย ผมถ่ายภาพคอร์นเฟลกโดยการใช้การขยายในระดับที่ดูไม่สมเหตุสมผล แล้วภาพก็ดูเหมือนกับชิ้นเนื้อที่ดูน่าขยะแขยงมากๆ หรือไม่ก็ดูเหมือนพื้นผิวของดาวอังคาร"
เช่นเดียวกับการถ่ายภาพทุกแขนง การสำรวจคือสิ่งที่ช่วยส่งเสริมทักษะในการทำความเข้าใจสิ่งที่คุณกำลังมองหาในภาพถ่ายของคุณ ยิ่งคุณเจาะลึกเข้าไปในโลกลึกลับใบใหม่นี้มากขึ้นเท่าใด คุณก็จะยิ่งรู้ว่าสิ่งใดที่คุณอยากจะจดบันทึก
"สิ่งที่ทำให้ภาพถ่ายมาโครออกมาดีก็คือสิ่งเดียวกันกับที่ทำให้ภาพถ่ายที่ดีทุกภาพออกมาดี" Long อธิบาย "เป็นหน้าที่ของช่างภาพเสมอที่จะดูให้แน่ใจว่าพวกเขาได้จัดเรียงเฟรมภาพและใช้กลไกที่ช่วยในการถ่ายทอดที่ช่างภาพมีจนครบทุกอย่างแล้ว เช่น ระยะชัดลึก พลังในการหยุดการเคลื่อนไหว และการควบคุมแสงและเงา เพื่อให้ผู้ชมรับรู้ได้ในทันทีว่าตัวแบบของภาพถ่ายนั้นคืออะไร"
"ผมคิดว่าที่จริงแล้วสิ่งที่ยากที่สุดเกี่ยวกับการถ่ายภาพมาโครก็คือการนึกภาพไว้ล่วงหน้า การเรียนรู้ที่จะแยกแยะได้ว่าตัวแบบสำหรับการถ่ายภาพมาโครที่ดีน่าจะเป็นแบบไหน"
แต่เมื่อคุณต้องปรับมุมมองของคุณให้ต่างออกไปอย่างเห็นได้ชัดมากๆ สถานที่ที่คุณจะหาตัวแบบและมุมที่เหมาะสมอาจเป็นอุปสรรคที่ยากลำบาก
"ผมคิดว่าที่จริงแล้วสิ่งที่ยากที่สุดเกี่ยวกับการถ่ายภาพมาโครก็คือการนึกภาพไว้ล่วงหน้า การเรียนรู้ที่จะแยกแยะได้ว่าตัวแบบสำหรับการถ่ายภาพมาโครที่ดีน่าจะเป็นแบบไหน" Long กล่าว "เพราะเมื่อคุณเข้าไปใกล้ในระยะมาโคร สิ่งต่างๆ จะดูแตกต่างออกไปจากสิ่งที่คุณเห็นในโลกจริงโดยสิ้นเชิงเลยล่ะ" คุณอาจจะนั่งอยู่หน้าตัวแบบสำหรับถ่ายภาพมาโครที่ยอดเยี่ยมแล้วไม่รู้ตัวเลยก็ได้"
ในขณะที่ดวงตาของคุณพัฒนาเพื่อมองหาตัวแบบสำหรับถ่ายภาพมาโคร ("คุณแค่ต้องถ่ายภาพมาโครให้เยอะๆ ก่อนที่คุณจะเริ่มจับทางได้ว่าอะไรที่จะส่งผลให้ตัวแบบที่ดีออกมาดูดีเต็มที่ มุมที่ดีที่สุดอาจจะอยู่ตรงไหน" Long กล่าว) คุณจะเริ่มเห็นความยากรูปแบบต่างๆ ที่เกิดขึ้นโดยใช้ทักษะเฉพาะด้านที่เชี่ยวชาญนี้
อย่างแรกที่ต้องทำ ก่อนที่คำแนะนำเกี่ยวกับการถ่ายภาพมาโครใดๆ จะเกิดประโยชน์ได้ คุณจะต้องมีเลนส์มาโครเสียก่อน ในขณะที่เลนส์ส่วนใหญ่ถ่ายภาพในสัดส่วนเท่ากับ 1:2.8 และมากกว่านั้น เลนส์มาโครถ่ายภาพในสัดส่วนเท่ากับ 1:1 และสามารถโฟกัสได้เพียงในระยะมาโครซึ่งมีความยาวราวๆ 12 นิ้วเท่านั้น เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับโฟกัสที่คมชัดมากๆ ที่จำเป็นต้องใช้เพื่อทำให้สิ่งเล็กจิ๋วดูใหญ่โตเกินจริง
เมื่อซื้อเลนส์แล้ว นี่คือเรื่องบางเรื่องที่คุณจะต้องคิดถึงเมื่อเริ่มถ่ายภาพในระดับมาโคร ซึ่งได้แก่
บันทึกย่อ: หากคุณต้องการทดลองถ่ายภาพก่อนที่จะลงทุนกับเลนส์มาโครที่มีรูปแบบการใช้งานเฉพาะตัวที่มาพร้อมกับความยาวโฟกัสที่เหมาะกับสไตล์แบบนี้มากกว่า คุณสามารถใช้แหวนกลับเลนส์ที่มีราคาย่อมเยากว่ามากได้ แหวนกลับเลนส์ทำให้คุณยึดเลนส์ธรรมดาเข้ากับกล้องแบบกลับหลังเพื่อสร้างเอฟเฟกต์มาโครได้
เมื่อคุณขยับเข้าใกล้วัตถุใดๆ ก็ตาม รายละเอียดแสนประณีตและข้อบกพร่องเล็กจิ๋วที่มองไม่เห็นจากระยะไกลๆ จะกระจ่างชัดขึ้นมา เมื่อคุณใช้กำลังขยายให้มากที่สุดเท่าที่คุณจะใช้ในการถ่ายภาพมาโคร คุณอาจจะกำลังมองขนที่ชี้โด่เด่ซึ่งดูใหญ่โตเท่าโฟมเส้นในสระว่ายน้ำ
Long อธิบายว่า "คุณจะต้องทำความสะอาดอย่างเป็นบ้าเป็นหลังเลยล่ะ แล้วถ้าเป็นอะไรที่แตกหักง่าย คุณจะไม่สามารถใช้แค่กระป๋องอัดอากาศเป่าออกไปเฉยๆ ได้ คุณจะต้องใช้แหนบและแปรงเล็กๆ เพื่อพยายามทำความสะอาดทุกอย่างจนเกลี้ยง"
"การถ่ายภาพมาโครขึ้นอยู่กับช่างภาพและขึ้นอยู่กับว่าช่างภาพอยากจะขยายขนาดของสิ่งใดให้คนเห็น" ช่างภาพ Stephen Klise กล่าว
การทำงานกับวัตถุที่เล็กกว่าเดิมนั้นหมายความว่าระยะชัดลึกของคุณหดลง ซึ่งทำให้มันกลายเป็นเรื่องสำคัญมากที่จะเริ่มถ่ายภาพมาโครพร้อมกับวางแผนไว้ว่าคุณอยากได้ภาพแบบไหน "ในตอนที่คุณกำลังถ่ายภาพมาโคร คุณมีระนาบโฟกัสที่แคบมากจริงๆ จนการปรับเล็กๆ น้อยๆ ก็อาจจะทำให้ทุกอย่างพังได้ในทันที" Klise กล่าว "การถ่ายภาพนี้ใช้เวลามากและต้องวางแผนอย่างรัดกุมหลายอย่าง"
โอกาสที่จะเกิดข้อผิดพลาดในงานถ่ายภาพมาโครนั้นสูงกว่า ซึ่งหมายความว่าคุณควรจะเตรียมตัวให้มากกว่าเดิม การนึกภาพไว้ล่วงหน้าเป็นหัวใจสำคัญ การซ้อนโฟกัสเป็นกระบวนการที่อาจเป็นประโยชน์ในตอนที่กำลังถ่ายภาพที่มีระยะชัดลึกที่ตื้นมากๆ ซึ่งเป็นผลจากการถ่ายภาพมาโครได้ด้วยเช่นกัน การซ้อนโฟกัสทำให้คุณสามารถผสานรวมบริเวณที่อยู่ในโฟกัสหลายๆ บริเวณจากภาพถ่ายมาโครหลายภาพเข้าด้วยกันจนกลายเป็นภาพเดียวได้ใน Adobe Photoshop หรือ Lightroom แต่การเตรียมสิ่งที่คุณต้องการสำหรับภาพถ่ายซ้อนโฟกัสก็วกกลับมาที่การเตรียมตัวและการนึกภาพอยู่ดี
"ในตอนที่คุณกำลังถ่ายภาพมาโคร คุณมีระนาบโฟกัสที่แคบมากจริงๆ จนการปรับเล็กๆ น้อยๆ ก็อาจจะทำให้ทุกอย่างพังได้ในทันที"
"ถ้าฉันกำลังถ่ายภาพมาโคร ฉันคิดอยู่เสมอว่า ตัวแบบของฉันอยู่ที่ไหน รวมทั้งคิดว่าจะนำเสนอรูปภาพนี้อย่างไร" นักเขียนหนังสือขายดีและช่างภาพอย่าง Carli Davidson เล่า
ดูเหมือนว่ารายละเอียดในภาพถ่ายมาโครจะเด่นชัดขึ้น รวมถึงผลลัพธ์ที่เกิดจากแสงและเงาก็ด้วย และสิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่คุณสามารถควบคุมได้ในการถ่ายภาพมาโครบางครั้ง ซึ่งเป็นประโยชน์กับคุณหลายอย่าง
"ฉันเคยพกไฟแบบมือถืออันเล็กจิ๋วที่ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ไปด้วย โดยพื้นฐานแล้วก็คล้ายๆ กับไฟฉาย" ช่างภาพงานแต่งงาน Khara Plicanic อธิบายถึงวิธีการที่เธอนำเอาการถ่ายภาพมาโครไปใช้เพื่อถ่ายภาพแหวนแต่งงานของคู่แต่งงานใหม่ที่ดูวิจิตร "ฉันชอบใช้ไฟแบบนั้นในการถ่ายภาพแหวนในบางครั้ง ก็แค่เพื่อเพิ่มมิติและอารมณ์ให้กับฉาก"
นอกเหนือไปจากแสงและผงฝุ่นที่ทำให้ภาพถ่ายเสียหาย พื้นหลังก็เป็นอีกบริเวณที่ต้องให้ความสนใจ ด้วยความที่คุณจดจ่ออยู่กับตัวแบบขนาดเล็กจิ๋วอย่างจดจ่อมากๆ คุณก็อาจลืมที่จะตรวจสอบพื้นหลังไปได้ง่ายๆ
"ผมสร้างฉากเล็กๆ นี้ขึ้นมาด้วยของเล่นรูปไดโนเสาร์แล้วก็ของอย่างอื่น" ช่างภาพ Jeff Carlson อธิบายถึงการถ่ายภาพที่เขาถ่าย "ผมกำลังจะส่งภาพไปให้คนแก้ไขภาพอยู่แล้ว แต่ภรรยาของผมมองภาพแล้วก็บอกว่าส่งภาพนั้นไปไม่ได้หรอก เพราะมีจานสกปรกอยู่ในพื้นหลัง"
เขากล่าวต่อว่า "เรื่องนี้เป็นหนึ่งในเรื่องยากๆ ที่คนมักมองข้ามไปหรือจำเป็นต้องเรียนรู้ ผมอยากอยากพูดได้ว่าปัญหานี้ไม่เคยเกิดขึ้นกับผมมาก่อน ซึ่งผมถ่ายภาพมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว แต่แน่นอนว่าผมเองก็ประสบกับปัญหานี้มาแล้ว"
การเคลื่อนไหวอาจจะเพิ่มความเบลอให้กับภาพถ่ายได้เสมอ และเช่นเดียวกับทุกๆ เรื่องที่เกี่ยวกับการถ่ายภาพมาโคร ปัญหาจะเพิ่มขึ้นเมื่อตัวแบบและฉากมีขนาดเล็ก การเตรียมการอย่างดีเป็นหัวใจสำคัญที่จะทำให้ตัวกล้องอยู่นิ่ง
"หากคุณกำลังถ่ายภาพโดยใช้กำลังขยาย การสั่นของกล้องก็จะกลายเป็นเรื่องอันตรายมาก" Long อธิบาย "โดยเฉพาะถ้าหากคุณใช้ความเร็วชัตเตอร์ที่ช้ากว่าเดิม เพราะภาพถ่ายมาโครนั้นมืดมาก คุณจะต้องใช้ความเร็วชัตเตอร์ที่หนึ่งหรือสองวินาที คุณอาจพบว่าคุณจำเป็นต้องออกไปจากห้องแล้วใช้รีโมตควบคุมเพื่อถ่ายภาพ ผมอาศัยอยู่บนชั้นบนๆ ของอาคารเก่า แล้วถ้าผมเดินไปเดินมา ผมก็จะทำให้กล้องสั่นมากเกินไป"
การรู้จักระวังอาจเป็นเคล็ดลับที่ใช้ได้กับทุกอย่าง มีการถ่ายภาพมาโครในระดับที่แตกต่างกัน แต่ใช้วิธีการเดียวกันซึ่งก็คือทำให้แน่ใจว่าตัวแบบอยู่ในโฟกัส มี Contrast ที่ดี และแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าคุณอยากจะให้ผู้ชมมองไปที่ใด ในการถ่ายภาพมาโครด้วยมุมมองที่แตกต่างกันนั้น ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมองหาอะไรเพิ่มเติม แต่เป็นเรื่องจำเป็นอย่างแน่นอนที่จะต้องฝึกฝนสายตาของคุณให้มองเห็นสิ่งที่ต้องมองหา
และเช่นเคย การฝึกฝนทำให้เกิดความสมบูรณ์แบบ ดังนั้นสวมจิตวิญญาณของ Ant-Man แล้วเริ่มคิด จากนั้นก็เริ่มถ่ายสิ่งเล็กๆ ได้เลย
แก้ไขรูปภาพอย่างง่ายดายด้วย Preset ของ Lightroom อย่างSuper Resolution แชร์ภาพถ่ายอย่างง่ายดายจากทุกอุปกรณ์ และเข้าถึงโปรเจกต์ต่างๆ ของคุณได้ทุกที่ด้วยการจัดการพื้นที่จัดเก็บภาพถ่ายบนระบบคลาวด์
ทำความเข้าใจระยะชัดลึกที่ตื้น
สำรวจวิธีที่ระยะชัดลึกที่ตื้นสามารถเพิ่มมิติให้ภาพถ่ายของคุณ
สำรวจโลกแห่งการถ่ายภาพอาหารพร้อมคำแนะนำจากมืออาชีพในวงการ
พัฒนาทักษะการจัดองค์ประกอบภาพของคุณด้วยการเรียนรู้ศิลปะแห่งการถ่ายภาพนิ่ง
สร้างภาพทิวทัศน์ที่ยอดเยี่ยม
สำรวจวิธีถ่ายภาพทิวทัศน์ที่สวยงามอย่างมีศิลปะพร้อมเคล็ดลับในการถ่ายภาพทิวทัศน์
แก้ไข จัดระเบียบ จัดเก็บ และแบ่งปันภาพถ่ายได้จากทุกที่
ใช้งานฟรี 7 วัน จากนั้น ฿380.92/เดือน
รับ Lightroom, Lightroom Classic, Photoshop และพื้นที่เก็บข้อมูลบนระบบคลาวด์ 20GB ทดลองใช้ฟรี 7 วัน จากนั้น ฿304.95/เดือน
รับแอปสร้างสรรค์สำหรับเดสก์ท็อปและมือถือทั้งหมดมากกว่า 20 แอป
ใช้งานฟรี 7 วัน จากนั้น ฿1,143.83/เดือน
Lightroom (1TB)
รับ Lightroom บนเดสก์ท็อปและมือถือพร้อมบริการอื่นๆ จาก Creative Cloud ในราคาเพียง
฿380.92/เดือน (รวม VAT)
Lightroom (1TB)
รับ Lightroom บนเดสก์ท็อปและมือถือพร้อมบริการอื่นๆ จาก Creative Cloud ในราคาเพียง
฿380.92/เดือน (รวม VAT)
Creative Cloud photography (20GB)
รับ Lightroom สำหรับเดสก์ท็อปและมือถือ, Lightroom Classic รวมถึง Photoshop บนเดสก์ท็อปและ iPad
฿380.92/เดือน (รวม VAT)
Creative Cloud photography (20GB)
รับ Lightroom สำหรับเดสก์ท็อปและมือถือ, Lightroom Classic รวมถึง Photoshop บนเดสก์ท็อปและ iPad
฿380.92/เดือน (รวม VAT)
นักเรียนและครู
ประหยัดกว่า 60% สำหรับแอป Creative Cloud กว่า 20 รายการ — รวมถึง Lightroom
฿761.84/เดือน (รวม VAT)
ธุรกิจ
รับ Lightroom และแอป Creative Cloud ทั้งหมด รวมถึง ฟีเจอร์ธุรกิจสุดพิเศษ
฿2,211.69/เดือน (รวม VAT)
ธุรกิจ
รับ Lightroom และแอป Creative Cloud ทั้งหมด รวมถึง ฟีเจอร์ธุรกิจสุดพิเศษ
฿2,211.69/เดือน (รวม VAT)