เคล็ดลับสำหรับการถ่ายภาพ Lifestyle ที่ดี

เรียนรู้วิธีวางแผนการถ่ายภาพ ใช้ประโยชน์จากตัวแบบให้ได้มากที่สุด และใช้ทักษะการถ่ายภาพและตัดต่อภาพในการสร้างภาพถ่ายที่มีสีสันสดใส

ภาพแม่ทำโยคะขณะที่ลูกชายแกล้งก้มลงไปบนหน้า

ภาพถ่าย Lifestyle คืออะไร

ภาพถ่าย Lifestyle เป็นศัพท์ที่ให้ความหมายโดยกว้างสำหรับการถ่ายภาพทุกรูปแบบที่มีจุดมุ่งหมายในการแสดงภาพผู้คนที่กำลังใช้ชีวิต การถ่ายภาพ Lifestyle อาจรวมถึงองค์ประกอบของการถ่ายภาพภูมิทัศน์ การถ่ายภาพบุคคล การถ่ายภาพ Street และการถ่ายภาพแฟชั่น

ภาพถ่าย Lifestyle สร้างรูปลักษณ์ของความเป็นจริงโดยถ่ายภาพความรู้สึกของช่วงเวลาที่สวยงามแบบ Candid และเหตุการณ์ในชีวิตจริง ต่างจากการถ่ายภาพสารคดีที่ถ่ายภาพช่วงเวลาทางประวัติศาสตร์และผู้คนจริงในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะถ่ายภาพสำหรับอัลบั้มครอบครัวหรือแค็ตตาล็อกผลิตภัณฑ์ ช่างภาพ Lifestyle จะวางแผนการถ่ายภาพอย่างพิถีพิถันและทุ่มเทอย่างมากในการสร้างภาพที่ดูเหมือนเรียบง่าย “การถ่ายภาพ Lifestyle นั้นทะเยอทะยาน แต่ก็สมจริง ลูกค้ามักต้องการให้ภาพออกมารู้สึกเหมือนช่วงเวลาจริงที่ไม่ได้มีการจัดท่า แต่จริงๆ แล้วก็มีการจัด” ช่างภาพ Lifestyle และแฟชั่น Grace Rivera กล่าว

เริ่มต้นด้วยการถ่ายภาพครอบครัวและอื่นๆ

หากคุณสนใจที่จะเป็นช่างภาพ Lifestyle ให้เริ่มต้นด้วยการถ่ายภาพเพื่อนและสมาชิกในครอบครัวของคุณให้เยอะๆ ฝึกถ่ายภาพ Candid และเรียนรู้ว่าแบบไหนใช้ได้ผลและไม่ได้ผล “ในตอนที่คุณเริ่มฝึก ให้พกกล้องติดตัวไปด้วยให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้” Rivera กล่าว ด้วยวิธีนี้ คุณจะเริ่มคิดในแง่ของการถ่ายภาพ ดังนั้นเมื่อใดก็ตามที่คุณเห็นอะไรบางอย่างที่คุณสนใจ คุณก็จะสามารถถ่ายภาพสิ่งนั้นได้

ไม่ว่าโจทย์คืออะไร ให้มุ่งมั่นในสิ่งที่คุณหลงใหลมากที่สุด หากคุณชอบถ่ายภาพกลางแจ้ง ไปหารถตู้และไล่ตามหาผู้คนรอบตัวที่เก่งหรือหลงใหลในสิ่งที่ทำ” ช่างภาพกลางแจ้ง Justin Bailie กล่าว “มุ่งเน้นไปที่ผู้คนที่ทำในสิ่งที่ตัวเองสนใจจริงๆ นั่นคือวิธีที่คุณจะได้ภาพถ่ายที่สมจริงที่สุด”

คุณสามารถเริ่มหางานหรือที่ฝึกงานกับช่างภาพที่มีความก้าวหน้าในสายอาชีพได้เช่นกัน Bailie เองก็เริ่มต้นสายอาชีพนี้ด้วยการฝึกงาน “ได้เห็นว่าคนที่มีมาตรฐานสูงทำงานกันอย่างไร แก้ไขภาพอย่างไร พูดคุยกับลูกค้าแบบไหน และได้ออกไปทำงานภาคสนามกับคนเหล่านั้น ไม่มีอะไรมาทดแทนประสบการณ์นี้ได้เลย”

เมื่อคุณพร้อมที่จะส่งภาพถ่ายของคุณออกไปแล้ว ให้เป็นนักตัดต่อที่ใจแข็ง Bailie แนะนำ โดยเฉพาะเมื่อคุณเพิ่งเริ่มต้นและกำลังสร้างความสัมพันธ์ระหว่างช่างภาพ/นักตัดต่อ ลดภาพในแฟ้มผลงานให้เหลือ 15 หรือ 20 รูปที่ดีที่สุดเพื่อแสดงให้เห็นว่าคุณคำนึงถึงเวลาของนักตัดต่อหรือ Art Director

ถ่ายภาพอย่างไรให้ได้ประโยชน์สูงสุด

การถ่ายภาพ Lifestyle อาจให้ความรู้สึกเหมือนสภานการณ์ที่มีความกดดันสูงได้ โดยเฉพาะเมื่อคุณทำงานให้กับลูกค้ารายใดรายหนึ่งหรือเผชิญกับสภาวะที่ท้าทาย เคล็บลับบางส่วนเพื่อนำไปสู่ความสำเร็จมีดังนี้

เตรียมตัวให้พร้อม

ดูให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจเนื้องาน ลูกค้าต้องการอะไรจากการถ่ายภาพครั้งนี้ บอกมาชัดเจนหรือไม่ จากนั้นให้สร้างรายการภาพ และคิดไอเดียดีๆ เกี่ยวกับเรื่องราวที่คุณต้องการเล่า “ฉันเตรียมข้อมูลเหล่านั้นไว้ล่วงหน้าเพื่อจะได้เตรียมตัวได้” Rivera กล่าว “ฉันคิดหาวิธีในการกำกับทีมงาน ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับทิศทางและการโต้ตอบกับตัวแบบ”

Rivera ยังแนะนำให้นำแผ่นสะท้อนแสง หรือแผ่นสะท้อนแสงแบบพกพาไปด้วย คุณจะได้สามารถใช้ประโยชน์จากแสงธรรมชาติและสะท้อนแสงเข้าไปในฉากได้ พกเลนส์ไปหลายๆ แบบก็ไม่เสียหายเช่นกัน คุณจะได้สามารถถ่ายกว้างขึ้นหรือแคบลงได้ตามต้องการ Rivera ใช้เลนส์มุมกว้าง 35 มม. เลนส์ 50 มม. และเลนส์ 85 มม. ในการถ่ายภาพบุคคลแบบระยะใกล้ นอกจากนี้ Rivera ยังเพิ่มอุณหภูมิสีของกล้องเป็นประมาณ 6,300 เคลวิน (สีขาวมาตรฐานคือ 5,600 เคลวิน) เพื่อให้ฉากดูอบอุ่นขึ้นเล็กน้อย

สร้างความเชื่อใจให้กับตัวแบบของคุณ

แม้แต่นางแบบนายแบบที่ผ่านการฝึกฝนมาแล้วก็ไม่สามารถซ่อนความรู้สึกไว้ได้หมดหากมีความรู้สึกไม่สบายใจระหว่างการถ่ายภาพ ดังนั้นเพื่อให้ได้ภาพที่ดีที่สุด คุณต้องทำให้แน่ใจว่าแบบของคุณผ่อนคลายต่อหน้ากล้อง Rivera พยายามสร้างความรู้สึกแนวการสังสรรค์พูดคุยกัน “พูดคุยกับพวกเขา” Rivera แนะนำ “ทำให้พวกเขารู้สึกสบายใจ และถ่ายภาพต่อไปด้วยในขณะที่ทำแบบนั้น”

Bailie แนะนำแนวทางที่คล้ายกันในการถ่ายภาพ Lifestyle “หากคุณถ่ายภาพผู้คนที่คุณไม่รู้จัก ให้พูดคุยสังสรรค์กับคนเหล่านั้นเล็กน้อยก่อนจะหยิบกล้องออกมา เพื่อให้คนเหล่านั้นได้รู้จักคุณและเห็นว่าคุณสนใจในสิ่งที่พวกเขาทำจริงๆ” Bailie กล่าว แนวทางในการถ่ายภาพ Lifestyle ของ Bailie นั้นคือการร่วมมือกัน “เป็นคนที่ดีอย่างแท้จริง และทำให้แน่ใจว่าคนเหล่านั้นเห็นคุณเป็นคนดี แทนที่จะเป็นแค่ใครสักคนที่พยายามถ่ายภาพบางอย่าง คุณกำลังพยายามสร้างบางสิ่งไปด้วยกันกับคนคนนั้น”

สูดลมหายใจตั้งสติ

การถ่ายภาพอาจรู้สึกวุ่นวายและจริงจัง ดังนั้นสิ่งสำคัญคือการชะลอความเร็วและตรวจสอบการตั้งค่ากล้องของคุณ โดยเฉพาะเมื่อคุณอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่สามารถถ่ายซ้ำได้ “มองไปรอบๆ และปล่อยตัวเองไปกับสิ่งรอบตัวเพื่อเก็บทุกมุมที่คุณนึกออก สำรวจตัวเลือกต่างๆ และแค่สนุกไปกันการถ่าย” Rivera กล่าว ภาพที่ดีที่สุดของฉันมักได้มาโดยบังเอิญ เป็นภาพที่ฉันไม่ได้ตั้งใจจะถ่าย นั่นคือตอนที่ช่วงเวลาแสนมหัศจรรย์เกิดขึ้น แต่คุณต้องเตรียมตัวให้พร้อมรับ”

ถ่ายภาพไว้เยอะๆ

ในการถ่ายภาพให้กับแบรนด์แบบเต็มวัน Bailie บอกว่าอาจถ่ายได้ตั้งแต่ 800 ถึง 4,000 ภาพ “และในนั้นอาจมีแค่ 20 รูปที่ดีจริงๆ หวังว่าจะมีมากกว่านั้นนะ” คุณมักจะไม่รู้เลยว่าทำแบบไหนถึงจะได้ผลบ้าง คุณจึงควรเปิดใจรับเรื่องเซอร์ไพรส์ไว้ และหากแบบของคุณทำอะไรที่คุณชอบ อย่ากลัวที่จะขอให้ทำซ้ำอีกครั้ง

ภาพถ่ายจากมุมมองจากกลางอากาศของคู่บ่าวสาวกำลังเต้นรำเปิดฟลอร์

หากคุณถ่ายภาพครอบครัวสำหรับงานแต่งงาน งานรับปริญญา หรือแค่การ์ดอวยพรวันหยุดของครอบครัว สิ่งสำคัญอย่างยิ่งคือการถ่ายภาพมาให้หลากหลายมากที่สุด ถ่ายใกล้ๆ เพื่อเก็บรายละเอียด แล้วจึงถ่ายมุมกว้างเพื่อถ่ายภาพตัวแบบของคุณท่ามกลางสภาพแวดล้อมนั้นๆ ให้ตัวแบบทำกิจกรรมต่างๆ เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจว่าคุณกำลังถ่ายอยู่ ขอให้พ่อแม่เล่นกับลูกๆ ครอบครัวออกไปเดินเล่นด้วยกันไหม ผู้คนเล่นกับสุนัขของครอบครัวหรือไม่ ถ่ายมาให้หมด

โฟกัส

ตรวจดูให้แน่ใจว่ากล้องของคุณอยู่ในโฟกัสแล้วจริงๆ “สมมติว่าคุณกำลังถ่ายภาพครอบครัว คุณต้องจัดการกับเด็กๆ ที่วิ่งเล่นไปทั่ว และมีตัวแปรอีกมากมาย เช่น สัตว์” Rivera กล่าว “สามารถหลุดโฟกัสได้ง่ายมาก เพราะมีหลายอย่างเกิดขึ้น ก็อาจจะลืมตรวจสอบไปได้ง่ายๆ”

แต่งเพิ่มในกระบวนการหลังการถ่ายเล็กน้อย

หลังจากถ่ายภาพ คุณอาจพบว่าคุณครอบตัดภาพได้ไม่สมบูรณ์แบบนัก หรือไม่ได้แสงที่เหมาะสม คุณจึงต้องทำงานเพิ่มอีกเล็กน้อยใน Adobe Photoshop หรือ Lightroom คุณอาจปรับเส้นขอบฟ้าอีกสองสามองศาให้ตรงหรือเพิ่มความต่างระดับสี คุณอาจปรับไฮไลต์และเงาด้วยเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีส่วนไหนหายไป “ฉันลดไฮไลต์ลงเล็กน้อยเพื่อไม่ให้มีอะไรหายไป” Rivera กล่าว “จากนั้นก็ปรับ Tone Curve อีกครั้งเพื่อเพิ่มความสว่างมากขึ้นอีกเล็กน้อย แล้วลดโทนสีกลางลงเพื่อให้ทุกอย่างออกมาสมดุล ช่วยให้ออกมาเรืองแสงสวยงามและสดใสได้”

วางภาพไว้ข้างกันเพื่อเปรียบเทียบภาพก่อนและหลังการปรับ Tone Curve

ไม่ว่าคุณวางแผนจะถ่ายรูปในอาคารหรือกลางแจ้ง ถ่ายกับนางแบบนายแบบมืออาชีพหรือแค่เพื่อนสนิท คุณก็สามารถปรับเปลี่ยนอะไรเล็กน้อยอย่างรวดเร็วได้เสมอเพื่อให้ตัวแบบได้อยู่ในแสงที่ดีที่สุด