Lightroom (1TB)
รับ Lightroom บนเดสก์ท็อปและมือถือพร้อมบริการอื่นๆ จาก Creative Cloud ในราคาเพียง
฿380.92/เดือน (รวม VAT)
ภาพถ่าย Headshot และภาพถ่ายบุคคลทางธุรกิจถือเป็นสื่อกลางในการกล่าวทักทาย ดูเคล็บลับในการถ่ายภาพ Headshot ระดับมืออาชีพให้สมบูรณ์แบบสำหรับ LinkedIn หรือโปร์ไฟล์นักแสดง และอื่นๆ อีกมากมาย
ภาพถ่าย Headshot ที่ดีจะบ่งบอกถึงตัวตนของบุคคลในภาพ ซึ่งต่างจากภาพในหนังสือเดินทาง ใบขับขี่ หรือบัตรประชาชนที่เพียงแสดงให้เห็นรูปลักษณ์ของคนๆ หนึ่งเท่านั้น ในขณะภาพถ่าย Headshot ต้องถ่ายทอดให้เห็นทัศนคติ บุคลิก และลักษณะนิสัยของบุคคลในภาพ
หากต้องการถ่ายภาพ Headshot ให้ดูดี ช่างภาพจำเป็นต้องทราบว่าตัวแบบในภาพคือใครและจะมีการนำภาพไปใช้อย่างไร ภาพถ่าย Headshot สำหรับบุคลากรมืออาชีพที่จะนำไปใช้บน LinkedIn จะแตกต่างจากภาพ Headshot สำหรับนักแสดงหรือนางแบบ หากคุณต้องการถ่ายภาพประเภทนี้ให้เชี่ยวชาญ คุณจำเป็นต้องทราบวิธีถ่ายภาพใบหน้าบุคคลและฝึกฝนทักษะมนุษยสัมพันธ์ ซึ่งจะช่วยให้ตัวแบบของคุณผ่อนคลายแล้วเผยลักษณะนิสัยออกมา
ภาพถ่าย Headshot คืออะไร
ภาพ Headshot เป็นสื่อกลางในการทักทาย ซึ่งจะต้องทำให้ผู้รับชมภาพรู้สึกว่ากำลังพบปะใครสักคนเป็นครั้งแรกในบริบทระดับมืออาชีพ การมองดูภาพ Headshot ควรให้ความรู้สึกเหมือนเป็นการแนะนำตัวที่ช่วยเสริมข้อความหรือบริบทใดๆ ก็ตามที่ใช้ร่วมกับภาพ ภาพถ่าย Headshot จะช่วยยกระดับให้โปรไฟล์บน LinkedIn กลายเป็นอะไรที่มากกว่าการแค่สาธยายประสบการณ์การทำงาน รวมทั้งช่วยยกระดับให้โปรไฟล์ระดับมืออาชีพให้มีมากกว่าข้อมูลเกี่ยวกับทักษะและความสนใจ
“การเล่าเรื่องราวผ่านภาพถ่าย Headshot นั้นสำคัญอย่างยิ่ง ไม่อย่างนั้นแล้วก็จะเป็นเพียงภาพถ่ายบุคคลธรรมดา” ช่างภาพ Editorial และภาพถ่ายบุคคล Grace Rivera อธิบาย “ภาพต้องสื่อสารอะไรสักอย่างและชวนให้ผู้รับชมภาพรู้สึกร่วมไปด้วย” Rivera แนะนำว่าความรู้สึกดังกล่าวควรแผ่ออกมาจากตัวแบบ แต่ก็ย่อมขึ้นอยู่กับช่างภาพในการสร้างบริบทให้ความรู้สึกนั้นก่อขึ้นมาเป็นรูปเป็นร่างได้
“การเล่าเรื่องราวผ่านภาพถ่าย Headshot นั้นสำคัญอย่างยิ่ง ไม่อย่างนั้นแล้วก็จะเป็นเพียงภาพถ่ายบุคคลธรรมดา”
ภาพถ่าย Headshot และการถ่ายภาพบุคคลมีลักษณะหลายๆ อย่างที่เหมือนกัน เนื่องจากมีตัวแบบคล้ายคลึงกันและเป็นการถ่ายภาพที่เน้นตัวบุคคล กลเม็ดเคล็ดลับทางเทคนิคสำหรับการถ่ายภาพประเภทหนึ่งจึงมักสามารถนำไปใช้กับการถ่ายภาพอีกประเภทได้ แต่ Rivera ชี้ให้เห็นอย่างรวดเร็วว่าการถ่ายภาพทั้งสองประเภทนั้นไม่เหมือนกันเสียทีเดียว ภาพถ่าย Headshot และภาพถ่ายบุคคลถ่ายทอดเรื่องราวที่แตกต่างกัน และช่างภาพก็จำเป็นต้องคำนึงถึงวัตถุประสงค์ของภาพอยู่เสมอขณะถ่ายภาพเหล่านี้
“หากคุณต้องการถ่ายภาพ Headshot สำหรับ LinkedIn” Rivera เล่า “แนวคิดของคุณจะต่างไปจากการถ่ายภาพ Editorial สำหรับนิตยสารอย่างสิ้นเชิง ถ้าฉันเดินเข้าไปในสถานที่ถ่ายทำโดยเตรียมพร้อมถ่ายภาพ Headshot สำหรับบริษัท แต่จริงๆ แล้วงานนั้นเป็นงานถ่ายภาพ Editorial ฉันก็จะไม่สามารถถ่ายภาพได้สำเร็จ พึงระลึกไว้เสมอว่าคุณกำลังถ่ายภาพใคร ถ่ายเพื่ออะไร และจะมีการนำภาพไปใช้ในที่ใด การใช้เวลาไตร่ตรองเช่นนั้นจะช่วยให้คุณถ่ายภาพออกมาได้น่าพอใจ”
การจัดแสงให้เหมาะกับการถ่ายภาพ Headshot อาจเป็นเรื่องที่ท้าทาย เทคนิคดั้งเดิมสำหรับภาพ Headshot แนะนำให้ใช้ไฟอ่อนๆ สีขาวตัดกับพื้นหลังสีขาว แต่ทั้งคุณสามารถถ่ายภาพ Headshot ให้ออกมาดูดีได้ทั้งในแสงจ้าและแสงอ่อน “แสงที่เหมาะสมนั้นขึ้นอยู่กับตัวเลือกที่คุณเลือกและภาพที่คุณอยากได้” Heather Concannon ผู้สำเร็จการศึกษาปริญญามหาบัณฑิตด้านการจัดแสงในสตูดิโออธิบาย “ถ้าคุณอยากให้ภาพดูน่าตื่นตาตื่นใจ แสงจ้าอย่างแสงอาทิตย์ที่ส่องมาโดยตรงหรือแสงไฟขนาดใหญ่จะส่งผลให้ตัวแบบของคุณมีลักษณะต่างไปอีกแบบ ซึ่งอาจกลายเป็นภาพที่ยอดเยี่ยมมากๆ ได้”
คุณจำเป็นต้องจัดแสงให้เหมาะกับรูปลักษณ์และลักษณะนิสัยของตัวแบบ “เมื่อคุณถ่ายภาพบุคคล” Concannon แนะนำ “คุณควรประเมินก่อนเสมอว่าตัวแบบมีบุคลิกอย่างไร แล้วจึงพิจารณาว่าแสงมาจากแหล่งไหน จากนั้นให้ปรับการถ่ายภาพให้สอดคล้องกัน”
Concannon ตระหนักดีว่าช่างภาพมือใหม่หลายๆ คนอาจถ่ายภาพบุคคลได้ยากในสภาวะแสงจ้าหรือเมื่อแสงส่องมาจากด้านหลังของตัวแบบ และแม้จะสามารถถ่ายภาพในสภาวะแสงจ้าหรือสภาวะแสงย้อนได้ เธออธิบายว่าการเพิ่มพูนทักษะให้ตนเองพัฒนาไปจนถึงระดับที่สามารถใช้ประโยชน์จากปัจจัยเหล่านั้นย่อมต้องผ่านการสั่งสมประสบการณ์ เธอจึงแนะนำให้ช่างภาพ Headshot มือใหม่ถ่ายภาพในอาคารและใช้หมู่เมฆให้เกิดประโยชน์
“แสงที่เหมาะกับการถ่ายภาพบุคคลที่สุดคือแสงในวันที่มีเมฆครึ้มข้างๆ หน้าต่าง” เธอเล่า “เมฆจะช่วยกรองให้แสงแดดอ่อนลง โดยคุณสามารถถ่ายภาพได้ในทุกๆ ที่ในวันที่มีเมฆมาก แต่ถ้าคุณอยู่ในอาคาร ลองไปถ่ายภาพใกล้ๆ หน้าต่างที่มีแสงส่องผ่านเมฆมาอย่างเจือจาง หรือในกรณีที่หน้าต่างมีหลังคาป้องกันไม่ให้แสงจ้าส่องเข้ามาได้ สภาวะเช่นนั้นสามารถก่อให้เกิดแสงอ่อนๆ ที่สม่ำเสมอและสวยงามสำหรับตัวแบบของคุณได้”
การออกไปถ่ายภาพข้างนอกมักจะช่วยให้ถ่ายภาพสวยๆ ได้ แต่ก็อาจนำไปสู่ปัญหาที่ไม่อาจคาดคิดได้เช่นกันเมื่อพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ ทั้งหมดที่อาจแปรผันไปตามสถานการณ์ “ถ้าระหว่างวันมีแสงแดดจ้าอยู่ในตำแหน่งเหนือศีรษะ ฉันจะพาตัวแบบย้ายไปถ่ายภาพในที่ร่ม” ช่างภาพ Sarah Aagesen เล่า “แสงเหนือศีรษะจะก่อให้เกิดเงาที่คมชัดบนใบหน้า ซึ่งอาจแก้ไขได้ยากในการแต่งภาพ”
ช่างถ่ายภาพ Headshot ที่ดีจะพิจารณาเกี่ยวกับใบหน้าที่แตกต่างกันไปของมนุษย์ ตลอดจนเค้าโครงของใบหน้า “คุณสามารถโฟกัสไปที่ดวงตา จมูก และหน้าผากของคนคนหนึ่ง แล้วถ่ายภาพลักษณะแก่นแท้ของบุคคลนั้นๆ ออกมาได้อย่างแท้จริง” Concannon อธิบาย “ซึ่งเป็นการปรับผิวของตัวแบบให้เรียบเนียนไปโดยอัตโนมัติ รวมถึงปรับพื้นหลังให้เนียนกลมกลืนกันและกำจัดสิ่งรบกวนในภาพให้พ้นสายตา”
ภาพถ่าย Headshot ที่ดีจะโฟกัสไปที่ตัวแบบโดยไม่เน้นแสดงให้เห็นพื้นหลัง หรือแม้แต่เบลอพื้นหลังไปเลย ปัจจัยสำคัญเหนือสิ่งอื่นใดคือลักษณะที่ตัวแบบปรากฏในภาพและลักษณะที่ตัวแบบมองมาที่กล้อง คุณสามารถถ่ายภาพโดยเน้นตัวแบบเช่นนี้ได้โดยใช้ระยะชัดลึกตื้นที่มีค่ารูรับแสงอยู่ที่ประมาณ 2.8 หรือโดยการตั้งค่าขนาดรูรับแสงต่ำๆ
ความยาวโฟกัสที่ 50-85 มม. เหมาะสำหรับการถ่ายภาพให้มีพื้นหลังเบลอสวยๆ แต่ก็สามารถใช้ความยาวโฟกัสที่มากขึ้นเพื่อให้พื้นหลังของภาพมีเอฟเฟกต์เบลอแบบ Bokeh ยิ่งขึ้นไปได้
ความยาวโฟกัสที่ 50 มม. จะจำลองการมองด้วยสายตาของมนุษย์ แนวทางถ่ายภาพที่เป็นธรรมชาติเหมาะสำหรับการถ่ายภาพ Headshot และภาพถ่ายบุคคล ซึ่ง Concannon อธิบายว่า “เมื่อคุณมองเข้าไปในกล้อง คุณจะเห็นภาพที่ไม่ได้ผ่านการซูมเข้าหรือซูมออกมากๆ เมื่อเทียบกับภาพที่คุณมองเห็นจริงผ่านสายตาของตัวเอง”
แต่การถ่ายภาพ Headshot ด้วยความยาวโฟกัสยาวๆ ก็มีข้อดีอยู่เหมือนกัน ช่างภาพสามารถใช้ความยาวโฟกัส 85 มม. เพื่อเพิ่มพื้นที่ให้กับตัวแบบได้ หากคุณร่วมงานกับบุคคลที่รู้สึกประหม่าเวลามีใครมาถ่ายภาพตนเอง ระยะห่างที่เพิ่มขึ้นมานั้นจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการช่วยลดความกังวลของตัวแบบ
ในทางกลับกัน การเลือกใช้ความยาวโฟกัสที่ลดระยะห่างระหว่างช่างภาพและตัวแบบก็สามารถช่วยให้ตัวแบบผ่อนคลายได้
“เมื่อฉันถ่ายภาพในสตูดิโอ ฉันจะอยากใช้ความยาวโฟกัสที่ช่วยให้ฉันสามารถโต้ตอบได้อย่างใกล้ชิดกับตัวแบบ” ช่างภาพและนักเขียนหนังสือยอดนิยมของ New York Times อย่าง Carli Davidson เล่า “ฉันไม่อยากอยู่ห่างจากตัวแบบมากนัก” สำหรับ Davidson ระยะห่างเช่นนั้นทำให้เธอรู้สึกเหมือนถูกตัดขาดจากตัวแบบ ซึ่งกลายเป็นอุปสรรคให้เธอไม่สามารถสร้างความสนิทสนมซึ่งเป็นปัจจัยที่จำเป็นในการถ่ายภาพให้ออกมายอดเยี่ยม ซึ่งเธอเล่าว่า “ฉันไม่ให้ปฏิสัมพันธ์ที่ขี้เล่น จริงจัง หรือชวนให้เศร้าใจนั้นหายไป”
ภาพ Headshot เป็นภาพที่มีความเป็นส่วนตัว ตัวแบบจะต้องรู้สึกผ่อนคลายเพื่อให้ช่างภาพสามารถถ่ายภาพตัวตนที่แท้จริงของตัวแบบออกมาได้ แต่หลายๆ คนหยุดเป็นตัวของตัวเองทันทีที่เห็นกล้อง ตัวแบบมักจะเกร็งแล้วจ้องตรงไปยังกล้อง หรือไม่ก็แสร้งยิ้มที่ดูไม่จริงใจ ซึ่งเป็นหน้าที่ของช่างภาพในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว
ความมั่นใจถือเป็นกุญแจสำคัญในการช่วยให้ตัวแบบรู้สึกผ่อนคลาย “แม้คุณจะรู้สึกไม่มั่นใจเลย แต่ให้แสร้งทำตัวเหมือนมั่นใจสักนิด” Rivera แนะนำ “ความมั่นใจจะช่วยลดความตึงเครียดในการถ่ายภาพช่วงแรกๆ ได้ จากนั้นคุณก็สามารถปล่อยให้การถ่ายภาพดำเนินไปตามธรรมชาติ พูดคุยกับตัวแบบของคุณ ทำความรู้จักตัวแบบ และคอยสังเกตว่าตัวแบบผ่อนคลายในช่วงเวลาใดมากที่สุดระหว่างถ่ายภาพ”
การฝึกให้สายตาสามารถจับช่วงเวลาดังกล่าวไว้ให้ทันแล้วถ่ายภาพช่วงเวลานั้นด้วยกล้องของคุณถือเป็นหัวใจสำคัญในการถ่ายภาพ Headshot ให้ประสบความสำเร็จ ไม่ว่าจะนำภาพไปใช้บน LinkedIn หรือใช้ในไฟล์ออดิชันของนักแสดงก็ตาม ถ่ายภาพตัวแบบในช่วงเวลาที่ตัวแบบเป็นธรรมชาติและเป็นตัวของตัวเองมากที่สุด แล้วช่วยให้ตัวแบบสร้างความประทับใจแรกที่ยอดเยี่ยม
แก้ไขรูปภาพอย่างง่ายดายด้วย Preset ของ Lightroom อย่างSuper Resolution แชร์ภาพถ่ายอย่างง่ายดายจากทุกอุปกรณ์ และเข้าถึงโปรเจกต์ต่างๆ ของคุณได้ทุกที่ด้วยการจัดการพื้นที่จัดเก็บภาพถ่ายบนระบบคลาวด์
สร้างสรรค์ภาพถ่ายบุคคลที่ยอดเยี่ยม
เข้าใกล้ภาพถ่ายบุคคลที่สมบูรณ์แบบมากขึ้นด้วยเคล็ดลับและคำแนะนำจากช่างภาพมืออาชีพ
ทำความเข้าใจระยะชัดลึกที่ตื้น
สำรวจวิธีที่ระยะชัดลึกที่ตื้นสามารถเพิ่มมิติให้ภาพถ่ายของคุณ
วิธีเพิ่มพื้นหลัง Bokeh ให้กับภาพถ่ายของคุณ
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเอฟเฟกต์เบลอสุดงดงามที่ทำให้ภาพถ่ายของคุณดูโดดเด่น
ค้นพบวิธีเลือกความยาวโฟกัสที่เหมาะสมสำหรับภาพถ่ายแต่ละภาพ
แก้ไข จัดระเบียบ จัดเก็บ และแบ่งปันภาพถ่ายได้จากทุกที่
ใช้งานฟรี 7 วัน จากนั้น ฿380.92/เดือน
รับ Lightroom, Lightroom Classic, Photoshop และพื้นที่เก็บข้อมูลบนระบบคลาวด์ 20GB ทดลองใช้ฟรี 7 วัน จากนั้น ฿304.95/เดือน
รับแอปสร้างสรรค์สำหรับเดสก์ท็อปและมือถือทั้งหมดมากกว่า 20 แอป
ใช้งานฟรี 7 วัน จากนั้น ฿1,143.83/เดือน
Lightroom (1TB)
รับ Lightroom บนเดสก์ท็อปและมือถือพร้อมบริการอื่นๆ จาก Creative Cloud ในราคาเพียง
฿380.92/เดือน (รวม VAT)
Lightroom (1TB)
รับ Lightroom บนเดสก์ท็อปและมือถือพร้อมบริการอื่นๆ จาก Creative Cloud ในราคาเพียง
฿380.92/เดือน (รวม VAT)
Creative Cloud photography (20GB)
รับ Lightroom สำหรับเดสก์ท็อปและมือถือ, Lightroom Classic รวมถึง Photoshop บนเดสก์ท็อปและ iPad
฿380.92/เดือน (รวม VAT)
Creative Cloud photography (20GB)
รับ Lightroom สำหรับเดสก์ท็อปและมือถือ, Lightroom Classic รวมถึง Photoshop บนเดสก์ท็อปและ iPad
฿380.92/เดือน (รวม VAT)
นักเรียนและครู
ประหยัดกว่า 60% สำหรับแอป Creative Cloud กว่า 20 รายการ — รวมถึง Lightroom
฿761.84/เดือน (รวม VAT)
ธุรกิจ
รับ Lightroom และแอป Creative Cloud ทั้งหมด รวมถึง ฟีเจอร์ธุรกิจสุดพิเศษ
฿2,211.69/เดือน (รวม VAT)
ธุรกิจ
รับ Lightroom และแอป Creative Cloud ทั้งหมด รวมถึง ฟีเจอร์ธุรกิจสุดพิเศษ
฿2,211.69/เดือน (รวม VAT)