การถ่ายภาพ (20GB)
฿304.95/เดือน (รวม VAT)
Lightroom บนเดสก์ท็อปและมือถือ Lightroom Classic และ Photoshop บนเดสก์ท็อปและ iPad ดูข้อมูลเพิ่มเติม
สร้างสรรค์ภาพถ่ายดอกไม้ที่สวยงามโดยใช้เพอร์สเปทีฟ องค์ประกอบภาพ และเทคนิคการจัดแสง รวมทั้งดูเคล็ดลับการแต่งภาพจากผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้ภาพถ่ายดอกไม้ของคุณออกมาดูดีที่สุด
ดอกไม้เป็นวัตถุที่ขึ้นกล้องอยู่แล้วตามธรรมชาติ โดยเป็นการแสดงออกถึงสีสัน พื้นผิว และรูปร่างต่างๆ ที่มองแล้วสุขใจ การถ่ายภาพดอกไม้จึงเป็นการชื่นชมความงามของพืชและเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการพัฒนาทักษะการถ่ายภาพประเภทต่างๆ ให้เก่งขึ้น “การถ่ายภาพประเภทนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับมือใหม่ แต่ก็อาจเป็นอะไรที่ต้องใช้ทักษะขั้นสูงด้วยเช่นกัน” ช่างภาพ Derek Boyd กล่าว “เหมือนกับประโยคที่ว่า เรียนรู้ได้ง่ายแต่ฝึกให้เก่งนั้นยาก” แต่การใส่ใจกับมุม การจัดวางเฟรม และการแต่งภาพจะช่วยให้คุณสามารถพัฒนาจากการถ่ายภาพดอกไม้ธรรมดาๆ สู่การถ่ายภาพภาพดอกไม้ผลิบานที่เร้าอารมณ์และชวนให้อยากกลับมามองดูอีกครั้งได้
คุณไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์อะไรมากเพื่อเริ่มถ่ายภาพ รายการต่อไปนี้คือสิ่งต่างๆ ที่คุณสามารถเตรียมไว้ก่อนจะออกไปผจญภัยการถ่ายภาพดอกไม้ครั้งแรกของคุณ
โทรศัพท์สักเครื่อง
อุปกรณ์อย่างเดียวที่คุณจำเป็นต้องใช้จริงๆ คือกล้อง และกล้องในโทรศัพท์ของคุณก็พอทดแทนได้แล้ว “คุณพกโทรศัพท์ติดตัวเสมอ และหากคุณใช้โทรศัพท์ที่ผลิตภายในสี่หรือห้าปีที่ผ่านมา คุณจะสามารถถ่ายภาพดอกไม้ได้สวยจนสามารถพิมพ์ออกมาเป็นรูปใหญ่ๆ ได้เลย” ช่างภาพ Jake Braught อธิบาย “โทรศัพท์มือถือมีแนวโน้มที่จะเปิดรับแสงให้ภาพมากเกินไป เพิ่มความสว่างของหน้าจอเพื่อให้เห็นภาพที่ใช้โทรศัพท์ถ่ายอยู่ได้ชัดเจนขึ้น แล้วค่อยปรับค่าการเปิดรับแสงของภาพ ผมแนะนำให้ลดค่าการเปิดรับแสงลงสักนิดเพื่อคงให้ภาพมีรายละเอียดมากขึ้น”
กล้อง DSLR และเลนส์ 50 มม.
กล้อง DSLR และเลนส์ช่วยให้คุณมีตัวเลือกมากขึ้นในการสร้างภาพถ่ายดอกไม้ระดับมืออาชีพ “เลนส์ตัวเก่งของผมคือเลนส์ 50 มิลลิเมตร” Braught เล่า “ซึ่งเป็นเลนส์ที่เหมาะสำหรับการเริ่มถ่ายภาพ ไม่ว่าคุณจะถ่ายภาพดอกไม้หรือภาพถ่ายบุคคล ผมมีเลนส์ 85 มิลลิเมตรสำหรับถ่ายภาพบุคคลและภาพดอกไม้ไว้ด้วย ข้อได้เปรียบหลักๆ ของทั้งสองเลนส์ไพร์ม (ซูมไม่ได้) นี้คือเป็นเลนส์ที่มีรูรับแสงกว้าง จึงสร้างเอฟเฟกต์พื้นหลังเบลอแบบชวนฝันเพราะมีระยะชัดลึกตื้น”
ขาตั้งกล้องและสายลั่นชัตเตอร์
ขาตั้งกล้องจะช่วยกันกล้องสั่นเพื่อให้ภาพถ่ายดอกไม้ของคุณคมชัดขึ้น และสายลั่นชัตเตอร์จะช่วยให้คุณสามารถถอยออกห่างจากตัวกล้องระหว่างถ่ายภาพได้ ใช้ความนิ่งของกล้องให้เป็นประโยชน์โดยการพลิกแพลงการตั้งค่าหลายๆ แบบเพื่อดูว่าแต่ละแบบส่งผลกับภาพของคุณอย่างไร “คุณใช้ขาตั้งกล้องทำอะไรเจ๋งๆ ได้หลายอย่างเลย” Braught แนะนำ “ถ้าเป็นเวลาช่วงใกล้พลบค่ำและคุณถ่ายภาพ Long Exposure คุณก็อาจเปิดชัตเตอร์ทิ้งไว้สักครู่หนึ่งแล้วคุณจะได้ภาพที่มีการเคลื่อนไหวซึ่งทำให้ดอกไม้ดูเหมือนภาพวาด”
แผ่นสะท้อนแสง
“แผ่นสะท้อนแสงเป็นเครื่องมือชิ้นโปรดอีกอย่างของผมในการถ่ายภาพดอกไม้ โดยเฉพาะเมื่อถ่ายภาพข้างนอก ซึ่งใช้เพิ่มแสงในส่วนที่มีเงาได้สะดวก” Boyd เล่า “เพราะคุณจะถ่ายภาพจากมุมต่ำเป็นจำนวนมากและประสบปัญหาเรื่องเงาเยอะ แผ่นนี้จะช่วยเปลี่ยนทิศทางของแสงแดดได้”
เลนส์เพื่อถ่ายภาพมาโครดอกไม้
เลือกใช้เลนส์มาโคร แล้วคุณจะสามารถซูมเข้าไปใกล้ดอกไม้ได้มากขึ้น ดอกไม้เป็นตัวแบบยอดนิยมสำหรับการถ่ายภาพมาโคร เนื่องจากความสลับซับซ้อนของกลีบและสีสันของดอกไม้จะปรากฏออกมาอย่างชัดเจนเมื่อถ่ายในระยะใกล้มากๆ แต่โปรดคำนึงว่าขาตั้งกล้องและแสงที่เพียงพอนั้นสำคัญยิ่งกว่าที่เคยเสียอีกเมื่อถ่ายภาพมาโคร
ถ่ายภาพดอกไม้ให้สวยงามและน่าจดจำด้วยเคล็ดลับและเทคนิคเหล่านี้
“ผมชอบถ่ายภาพตอนพระอาทิตย์ตกหรือพระอาทิตย์ขึ้น ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เหมาะกว่า” Braught แนะนำ “แต่การถ่ายภาพดอกไม้นั้นถ่ายได้หลายแบบ เพราะคุณสามารถถ่ายภาพในตอนกลางวันแล้วเล่นกับแสงเงาได้ด้วยเช่นกัน”
ข้อผิดพลาดอาจกลายเป็นภาพที่น่าสนใจได้ “คุณไม่สามารถถ่ายให้ทุกภาพออกมาสมบูรณ์แบบตรงตามทุกหลักการได้ และบางครั้งภาพที่ดีที่สุดของคุณก็ไม่ใช่ภาพที่สมบูรณ์แบบ” Braught เล่า “คุณอาจถ่ายภาพที่มีการเคลื่อนไหวหรือความเบลอที่ทำให้ภาพมีอารมณ์อื่นๆ ต่างจากปกติ”
ใช้กระป๋องสเปรย์เพื่อเพิ่มหยดน้ำลงไป ใช้ห่อพลาสติกครอบเลนส์เป็นตัวกระจายแสงในการบิดเบือนให้แสงดูชวนฝัน สร้าง Lens Flare โดยการถือกลีบดอกไม้ที่หลุดออกจากดอกไว้ใกล้ๆ ขอบเลนส์ หักเหแสงที่ส่องลงบนดอกไม้ด้วยปริซึมหรือเลนส์ Fractal “การทดลองเล่นเป็นเรื่องสนุกเสมอ” Braught เล่า “คุณสามารถถือวัตถุอะไรก็ตามที่มองทะลุได้ไว้ด้านหน้าเลนส์เพื่อพลิกแพลงภาพในรูปแบบที่ไม่เหมือนใคร”
ดอกไม้เป็นตัวแบบที่แม้แต่ช่างภาพที่ขี้อายที่สุดก็สามารถกำกับได้ สีและพื้นผิวของดอกไม้ก็ถือเป็นสนามให้สามารถฝึกฝนใช้เทคนิคการถ่ายภาพและการตั้งค่ากล้องให้เก่งขึ้นด้วยเช่นกัน เรียนรู้บทเรียนบางส่วนด้านล่างนี้ผ่านการถ่ายภาพดอกไม้
องค์ประกอบภาพคือหัวใจสำคัญ
“สิ่งแรกที่ผมเรียนรู้จากการถ่ายภาพดอกไม้คือการจัดองค์ประกอบภาพ ซึ่งเป็นการจัดวางตัวแบบหลักไว้ในตำแหน่งที่เหมาะสมในภาพถ่าย” Boyd อธิบาย “รวมถึงใช้ฉากหน้าและฉากหลังเพื่อจัดเฟรมให้ตัวแบบของคุณ” ใช้กฎสามส่วนเพื่อสร้างองค์ประกอบภาพที่ดี ไม่ว่าคุณจะถ่ายภาพระยะใกล้ของดอกไม้ดอกเดียวหรือถ่ายภาพที่เต็มไปด้วยทั้งสวนดอกไม้ก็ตาม อีกทั้งยังควรถ่ายหลายๆ ภาพในมุมที่แตกต่างกันไป “ลองย่อลงไประดับพื้นแล้วถ่ายมุมเงยขึ้นมา” Boyd แนะนำ “การถ่ายภาพจากมุมบนก็อาจออกมาดูดีเช่นกัน” Braught อธิบาย “ดอกไม้นั้นอาจดูแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิงเมื่อถ่ายจากมุมที่แตกต่างกันแค่เพียงไม่กี่องศา”
เปิดรับแสงน้อยๆ ย่อมดีกว่า
“เลือกถ่ายภาพโดยเปิดรับแสงน้อยไว้ก่อนเสมอ” Braught อธิบาย “ไม่ว่าคุณจะถ่ายภาพด้วยโทรศัพท์หรือกล้อง DSLR คุณสามารถเพิ่มความสว่างให้ภาพได้เสมอในขั้นตอนหลังการถ่ายภาพเพราะข้อมูลของภาพยังคงอยู่ แต่หากถ่ายภาพโดยเปิดรับแสงมาเกินไป ข้อมูลของภาพจะถูกทำลายไปในบริเวณที่แสงจ้าจนขาวโพลน” ลดการเปิดรับแสงบนโทรศัพท์ลงเล็กน้อยหรือปรับรูรับแสงให้แคบลงโดยการปรับค่า F-Stop ให้สูงขึ้น การเพิ่มความเร็วชัตเตอร์ก็ช่วยได้เช่นกัน
ระยะชัดลึกตื้นๆ เป็นตัวเลือกที่ปลอดภัย
การถ่ายภาพด้วยระยะชัดลึกตื้นจะทำให้ตัวแบบในภาพถ่ายของคุณอยู่ในโฟกัสโดยการเบลอทุกอย่างที่อยู่บริเวณฉากหน้าและฉากหลัง ระยะโฟกัสที่สั้นลงมานั้นจะมีประโยชน์เมื่อคุณต้องการให้วัตถุบางชิ้นในเฟรมที่ดูไม่น่ามองนักโดดเด่นน้อยลง ซึ่ง Braught เล่าว่า “ไม่ว่าจะเป็นตึกที่อยู่ด้านหลังหรือขยะบนพื้น ในหลายๆ ครั้ง ระยะชัดลึกที่ตื้นมากพอจะช่วยเบลอสิ่งเหล่านั้นออกไปเพื่อให้คุณไม่ต้องคอยกังวล”
ถ่ายภาพโดยใช้รูรับแสงกว้างๆ เพื่อให้ได้ภาพเช่นนี้ แต่ไม่ควรเปิดรูรับแสงกว้างเกินไป เว้นแต่ว่าคุณจะตั้งใจโฟกัสเพียงบางส่วนของดอกไม้ โดย Boyd แนะนำว่า “ค่ารูรับแสงประมาณ 5.6 ถึง 8 จะช่วยให้คุณถ่ายภาพได้โดยมีระยะชัดลึกเพียงพอให้ดอกไม้ทั้งดอกอยู่ในโฟกัส แต่ฉากหลังและฉากหน้าจะยังคงเบลออยู่” ทั้งนี้อย่าลืมเพิ่มความเร็วชัตเตอร์เมื่อเปิดรูรับแสงกว้างเพื่อไม่ให้ภาพของคุณมีแสงจ้าจนเกินไป
“ส่วนสำคัญในการถ่ายภาพดอกไม้สำหรับผมแล้วคือการแต่งภาพ” Braught เล่า “ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ผมจะสร้างโทนและอารมณ์ให้กับภาพถ่าย” แต่งภาพแบบเร็วๆ ได้จากทุกที่ด้วย Adobe Lightroom แล้วดำดิ่งไปกับการแต่งภาพที่ลึกลงไปอีกขั้นโดยใช้ Adobe Photoshop
พลิกแพลง Contrast และความเข้ม
“ผมชอบลองปรับ Contrast และความเข้มมากที่สุด” Boyd เล่า “ผมชอบภาพที่เต็มเปี่ยมไปด้วยอารมณ์” ลองปรับเปลี่ยนการตั้งค่าไปเรื่อยๆ เพื่อดูว่าแบบไหนถูกใจคุณ การเพิ่มความเข้มสามารถเพิ่มองค์ประกอบที่ช่วยทำให้ภาพฟุ้งเหมือนฝันได้
สร้างสรรค์ภาพถ่ายดอกไม้สีขาวดำ
ลดค่าความเข้มให้สุดจนภาพกลายเป็นสีขาวดำเพื่อช่วยเน้นองค์ประกอบภาพและ Contrast จากนั้นเพิ่มพื้นผิวเพื่อให้ดูเหมือนภาพฟิล์ม “ผมชอบภาพฟิล์มที่มีเกรน ดังนั้นผมเลยเพิ่มเกรนลงไปในภาพถ่ายดิจิทัลของผมในขั้นตอนหลังการถ่ายภาพ” Braught เล่า “การเพิ่มความหยาบกระด้างลงไปสักหน่อยจะช่วยให้ภาพถ่ายดูมีผิวสัมผัสและอยู่เหนือกาลเวลา”
ปรับอุณหภูมิของภาพและทินต์
ตรวจสอบสมดุลสีขาวของภาพถ่ายในกล้องของคุณ แล้วปรับแต่งโทนสีภาพใน Photoshop โดยใช้การปรับค่า Curves “ผมชอบปรับให้จุดสีขาวเป็นสีขาวล้วนหรือออกไปทางโทนเย็นหรือสีโทนน้ำเงิน” Braught เล่า “คุณต้องปรับค่าให้สมดุลกัน ถ้าผมดึงอุณหภูมิของภาพลงเยอะ ผมจะเข้าไปที่ Tint และปรับเอาสีมาเจนตาออกสักหน่อย”
ใช้ค่าที่ตั้งไว้ล่วงหน้าของ Lightroom เพื่อแต่งภาพอย่างทันใจ
สร้างฟิลเตอร์ของคุณเองและค้นหาฟิลเตอร์จากช่างภาพคนโปรดของคุณด้วยค่าที่ตั้งไว้ล่วงหน้าของ Lightroom โดย Boyd เล่าว่า “มีค่าที่ตั้งไว้ล่วงหน้าที่ช่วยแต่งภาพในแบบที่ปกติผมคงทำด้วยตัวเอง แต่การใช้ค่านี้ช่วยให้แต่งภาพได้ไวกว่า”
ปรับอุณหภูมิของภาพและ Tint
ตรวจสอบสมดุลสีขาวของภาพถ่ายในกล้องของคุณ แล้วปรับแต่งโทนสีภาพใน Photoshop โดยใช้การปรับค่า Curves “ผมชอบปรับให้จุดสีขาวเป็นสีขาวล้วนหรือออกไปทางโทนเย็นหรือสีโทนน้ำเงิน” Braught เล่า “คุณต้องปรับค่าให้สมดุลกัน ถ้าผมดึงอุณหภูมิของภาพลงเยอะ ผมจะเข้าไปที่ Tint และปรับเอาสีมาเจนตาออกสักหน่อย”
พลิกแพลง Contrast, ความเข้ม และพื้นผิว
“ผมชอบลองปรับ Contrast และความเข้มมากที่สุด” Boyd เล่า “ผมชอบภาพที่เต็มเปี่ยมไปด้วยอารมณ์” ลองปรับเปลี่ยนการตั้งค่าไปเรื่อยๆ เพื่อดูว่าแบบไหนถูกใจคุณ การเพิ่มความเข้มสามารถเพิ่มองค์ประกอบที่ช่วยทำให้ภาพฟุ้งเหมือนฝัน ในขณะที่การลดค่าความเข้มให้สุดจนภาพกลายเป็นสีขาวดำจะช่วยให้คุณเน้นองค์ประกอบภาพและ Contrast ได้ “ผมชอบภาพฟิล์มที่มีเกรน ดังนั้นผมเลยเพิ่มเกรนลงไปในภาพถ่ายดิจิทัลของผมในขั้นตอนหลังการถ่ายภาพ” Braught เล่า “การเพิ่มความหยาบกระด้างลงไปสักหน่อยจะช่วยให้ภาพถ่ายดูมีผิวสัมผัสและอยู่เหนือกาลเวลา”
ลองใช้เทคนิค Focus Stacking
รวมภาพถ่ายจากโทรศัพท์หรือกล้อง DSLR เข้าด้วยกันเพื่อสร้างภาพหนึ่งภาพที่มีหลายจุดโฟกัสอย่างคมชัดโดยใช้เทคนิค Focus Stacking ลองดูว่าคุณสามารถสร้างสรรค์ภาพโดยที่ดอกไม้ทั้งช่อหรือสวนทั้งสวนอยู่ในโฟกัสได้หรือไม่
ภาพถ่ายดอกไม้มีความหลากหลายอย่างมาก ตั้งแต่ภาพถ่ายทุ่งดอกดารารัตน์กลางแดดทั่วๆ ไป ไปจนถึงภาพถ่ายอันมืดครึ้มของดอกกุหลาบแห้งหนึ่งดอกในมุมที่แปลกตา ลองดูว่าคุณสามารถถ่ายทอดอารมณ์แบบใดได้บ้างผ่านการถ่ายภาพดอกไม้อย่างสร้างสรรค์
สำรวจละแวกบ้านของคุณ
“แรงบันดาลใจและภาพถ่ายหลายๆ ภาพของผมมาจากการเดินเล่นแถวละแวกบ้าน” Braught เล่า “วิธีนี้เป็นวิธีที่ดีในการถ่ายภาพประวัติความเป็นมาของละแวกบ้านและค้นหาความสวยงามในชีวิตประจำวัน”
จัดฉากการถ่ายภาพนิ่งที่บ้าน
ไปที่ร้านขายดอกไม้ สั่งดอกไม้ให้มาส่งผ่านทางออนไลน์ หรือเด็ดดอกไม้ป่ามา จากนั้นจัดฉากการถ่ายภาพนิ่งของคุณเองที่บ้าน ซึ่ง Boyd เล่าว่า “ผมจัดแจงอะไรต่างๆ เองเพื่อให้องค์ประกอบภาพออกมาน่าสนใจ”
ค้นหาช่างถ่ายภาพดอกไม้ที่คุณชื่นชอบทางออนไลน์ ศึกษาผลงานของช่างภาพเหล่านั้นให้คุ้นเคยและอย่ากลัวที่จะติดต่อไปเพื่อถาม ซึ่ง Braught ระบุว่า “ชุมชนช่างภาพเป็นชุมชนที่เป็นมิตรและยินดีแบ่งบันเคล็ดลับกัน” จากนั้นลองเริ่มถ่ายภาพดอกไม้ด้วยตัวเอง “ถ่ายภาพเยอะๆ ถึงแม้คุณจะชอบภาพแรกที่ถ่ายได้มากก็ตาม” Boyd แนะนำ “ถ้าคุณถ่ายภาพเพิ่มอีก ส่วนมากแล้วภาพแรกที่คุณถ่ายได้จะไม่ใช่ภาพที่ึึคุณชอบที่สุด”
เคล็ดลับการถ่ายภาพธรรมชาติทุกรูปแบบ
สำรวจความเป็นไปได้ในการถ่ายภาพธรรมชาติ ตั้งแต่สัตว์ที่กำลังเคลื่อนไหวไปจนถึงทิวทัศน์ที่กว้างใหญ่ไพศาล
พัฒนาทักษะการจัดองค์ประกอบภาพของคุณด้วยการเรียนรู้ศิลปะแห่งการถ่ายภาพนิ่ง
ทำความเข้าใจระยะชัดลึกที่ตื้น
สำรวจวิธีที่ระยะชัดลึกที่ตื้นสามารถเพิ่มมิติให้ภาพถ่ายของคุณ
สร้างภาพทิวทัศน์ที่ยอดเยี่ยม
สำรวจวิธีถ่ายภาพทิวทัศน์ที่สวยงามอย่างมีศิลปะพร้อมเคล็ดลับในการถ่ายภาพทิวทัศน์
ค้นหาแผน Creative Cloud ที่เหมาะกับคุณ
฿304.95/เดือน (รวม VAT)
Lightroom บนเดสก์ท็อปและมือถือ Lightroom Classic และ Photoshop บนเดสก์ท็อปและ iPad ดูข้อมูลเพิ่มเติม
Photography (20GB)
Lightroom บนเดสก์ท็อปและมือถือ Lightroom Classic และ Photoshop บนเดสก์ท็อปและ iPad ดูข้อมูลเพิ่มเติม
฿304.95/เดือน (รวม VAT)
฿876.33/เดือน (รวม VAT)
รับ Photoshop บนเดสก์ท็อปและ iPad ในฐานะส่วนหนึ่งของ Creative Cloud ดูข้อมูลเพิ่มเติม
Adobe Photoshop Single App
รับ Photoshop บนเดสก์ท็อปและ iPad ในฐานะส่วนหนึ่งของ Creative Cloud ดูข้อมูลเพิ่มเติม
฿876.33/เดือน (รวม VAT)
฿1,143.83/เดือน (รวม VAT)
รับ Photoshop บนเดสก์ท็อปและ iPad รวมทั้งคอลเลกชันแอปสร้างสรรค์ทั้งหมด ดูข้อมูลเพิ่มเติม
All Apps
รับ Photoshop บนเดสก์ท็อปและ iPad รวมทั้งคอลเลกชันแอปสร้างสรรค์ทั้งหมด ดูข้อมูลเพิ่มเติม
฿1,143.83/เดือน (รวม VAT)
฿761.84/mo. (รวม VAT)
ประหยัดกว่า 65% สำหรับคอลเลกชันแอป Creative Cloud ทั้งหมด ดูข้อมูลเพิ่มเติม
นักเรียนและครู
ประหยัดกว่า 65% สำหรับคอลเลกชันแอป Creative Cloud ทั้งหมด ดูข้อมูลเพิ่มเติม
฿761.84/เดือน (รวม VAT)