สำรวจศาสตร์และศิลป์แห่งการเรียงพิมพ์

ค้นพบโลกของการเรียงพิมพ์และการออกแบบกราฟิกชั้นดี

การเรียงพิมพ์คือวิธีการประกอบข้อความขึ้นมาด้วยบรรดาตัวพิมพ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องหมาย ตัวอักษร และสัญลักษณ์ (Glyph) ในระบบดิจิทัล โดยเป็นส่วนสำคัญในโลกแห่งการออกแบบซึ่งต้องอาศัยความเข้าใจเกี่ยวกับแบบอักษร ขนาดแบบอักษรที่สอดคล้องกัน และการเว้นระยะระหว่างบรรทัด การเรียงพิมพ์และการจัดวางตัวอักษรที่ดีจะต้องไม่มีใครสังเกตเห็น โดยช่วยให้ผู้อ่านซึมซับกับตัวอักษรได้โดยไม่มีอะไรมารบกวนสายตา การเรียงพิมพ์ที่ไม่ดีจะดึงความสนใจและทำให้ผู้อ่านเสียสมาธิ คล้ายกับการขับรถไปบนถนน หากปูมาอย่างดี ทุกคนจะขับเพลินจนไม่ทันสังเกตเห็น แต่หากถนนเป็นหลุมเป็นบ่อ คงไม่มีใครไม่สนใจได้

ศิลปะแห่งการเว้นระยะคำและการออกแบบหนังสือจากสมัยโบราณ

การเรียงพิมพ์คือศิลปะที่มีมาแต่โบราณ การพิมพ์ด้วยตัวเรียงถือกำเนิดขึ้นประมาณ ค.ศ. 1040 ในประเทศจีน เมื่อมีผู้ประดิษฐ์ตัวเรียงพิมพ์เซรามิกสำหรับพิมพ์ตัวอักษรจีนต่างๆ ขึ้นมา ส่วนในฝั่งตะวันตก โยฮันเนส กูเตนเบิร์กมักได้รับการยกย่องในฐานะผู้ประดิษฐ์แท่นพิมพ์ใน ค.ศ. 1440 โดยสร้างโครงตัวพิมพ์ใช้พิมพ์หนังสือด้วยมือได้

นับแต่นั้นเป็นต้นมา การเรียงพิมพ์ได้พัฒนาสู่แท่นพิมพ์ที่ใช้กลไก จากนั้นจึงใช้ระบบอัตโนมัติ จนกลายเป็นเครื่องมือหลักที่นักเรียงพิมพ์ส่วนใหญ่ใช้ในปัจจุบัน นั่นคือซอฟต์แวร์กราฟิกแบบเวกเตอร์ในท้ายที่สุด งานที่เคยใช้เวลานับเดือนหรือนับปีสามารถสำเร็จได้ในเวลาไม่กี่นาทีด้วยซอฟต์แวร์ดิจิทัล

หากต้องการเรียนรู้โดยตรงจากผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับการเรียงพิมพ์ คุณสามารถสมัครเรียนที่วิทยาลัยในพื้นที่และสมาคมศิลปิน ผู้กำกับศิลป์และนักออกแบบหนังสือ Dylan Todd แนะนำให้ลงเรียน “คุณจะได้วางตัวพิมพ์โลหะด้วยมือและใช้แท่นพิมพ์เพื่อพิมพ์ทุกอย่าง มันทำให้ผมเห็นคุณค่าและเข้าใจตัวพิมพ์และเครื่องมือต่างๆ อย่างแท้จริง”

การเรียงพิมพ์จะดีหรือแย่วัดกันตรงที่ประสบการณ์การอ่าน

ปัจจัยพื้นฐานเล็กๆ น้อยๆ ที่คุณควรพิจารณาเสมอเมื่อจัดเรียงข้อความของคุณในงานออกแบบหรือเอกสาร ได้แก่ ลำดับชั้น, แบบอักษร, การเว้นระยะ, Padding และ Tracking

• ลำดับชั้น: ก่อนเริ่มโปรเจกต์การเรียงพิมพ์หรือการจัดวางข้อความ การวางลำดับชั้นในการพิมพ์เป็นสิ่งสำคัญ กำหนดขนาดและน้ำหนักของแบบอักษรต่างๆ ที่คุณจะใช้ในการจัดข้อความ จากนั้นบันทึกเป็นสไตล์เพื่อให้งานออกแบบของคุณมีความสม่ำเสมอและเป็นหนึ่งเดียวกันทั้งงาน

• แบบอักษร: การเลือกแบบอักษรที่เหมาะสมสำหรับงานออกแบบของคุณนับเป็นงานศิลปะในตัวเอง หากนึกอะไรไม่ออก ตัวเลือกพื้นฐานในการออกแบบดั้งเดิมคือเลือกฟอนต์ Sans Serif สำหรับชื่อเรื่อง และฟอนต์ Serif ที่อ่านง่ายสำหรับข้อความเนื้อหา คุณสามารถลองใช้แบบอักษรที่น่าสนใจอื่นๆ ได้ แต่จำไว้ว่าคุณไม่ต้องการให้แบบอักษรใดๆ มาขัดประสบการณ์ของผู้อ่าน

• การเว้นระยะ: แม้ว่าระยะระหว่างบรรทัดแคบๆ อาจจะดูน่าสนใจ แต่ก็มักจะทำให้อ่านยากกว่า การมีสายตาที่เฉียบคมในการเว้นระยะในเอกสารเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่จะส่งผลต่อความยากหรือง่ายในการอ่าน

• Tracking และ Padding: Tracking หมายถึงระยะห่างระหว่างตัวอักษร ส่วน Padding หมายถึงปริมาณช่องว่างระหว่างบล็อก ข้อความกับขอบของหน้ากระดาษ คุณสามารถลองเล่นกับการตั้งค่าข้อความสองอย่างนี้เพื่อสร้างผลลัพธ์ทางภาพหลายๆ แบบที่แตกต่างกันไป

การเรียงพิมพ์ยังสื่อถึงอารมณ์ ช่วงเวลา และบรรยากาศได้อีกด้วย ตัวพิมพ์ตระกูล Serif ให้ภาพย้อนอดีตถึงสไตล์คลาสสิก งานฝีมือ และขนบธรรมเนียม ในขณะที่ตระกูล Sans Serif สื่อถึงความทันสมัยและความเรียบง่าย "คุณจะเห็นแบบอักษร Serif จำนวนมาก (รวมถึงอักษรสไตล์โรมันและอักษรโกธิค) ที่เกี่ยวข้องกับยุคกลาง ราวๆ ช่วงที่เริ่มมีการนำคำนั้นมาใช้พูดถึงการพิมพ์" นักออกแบบ Robin Casey กล่าว “คุณควรทำความเข้าใจกรอบเวลาดังกล่าว หากจะใช้อักษรแบบนี้เพื่อกำหนดโทนของงาน”

เครื่องมือสำหรับนักเรียงพิมพ์ยุคใหม่

เพื่อเป็นการปูพื้นฐานงานด้านการเรียงพิมพ์ของคุณ เริ่มต้นด้วยการสำรวจซอฟต์แวร์การออกแบบและการวาดภาพ คุณสามารถสร้างแบบอักษรของคุณเองใน Adobe Illustrator ซึ่งจะช่วยในการเรียงพิมพ์ได้เมื่อคุณได้เรียนรู้แนวคิดอย่างการจัดช่องไฟ ซอฟต์แวร์กราฟิกเวกเตอร์ช่วยให้คุณวาด ปรับขอบ และปรับขนาดแบบอักษรของคุณแล้วส่งออกเพื่อให้ใช้งานได้ง่ายในโปรแกรมอื่น

สำหรับการเรียงพิมพ์และการสร้างเอกสาร Adobe InDesign ถือเป็นแพลตฟอร์มสำคัญ ซอฟต์แวร์นี้สร้างขึ้นเพื่อให้ผู้สร้างคอนเทนต์ทุกประเภทสามารถรังสรรค์เอกสารที่ทั้งสวยงามและใช้งานได้จริง เมื่อใช้ InDesign คุณจะควบคุมกระบวนการสร้างเอกสารได้อย่างสมบูรณ์ ทั้งนี้ คุณสามารถเรียนรู้ในเรื่องอื่นๆ ต่อไปได้ ไม่ว่าจะเป็นการจัดรูปแบบข้อความ การกำหนดระยะขอบและแนวของเอกสาร และอีกมากมาย