คู่มือเกี่ยวกับความหมายของสี
เรียนรู้วิธีการใช้จิตวิทยาของสีเพื่อเสริมและเพิ่มความหมายให้กับสารของคุณ เมื่อคุณเข้าใจความหมายของสีต่างๆ คุณก็จะสามารถสร้างงานออกแบบที่มีพลังซึ่งกระตุ้นให้เกิดอารมณ์ที่ต้องการได้
ทุกสิ่งที่คุณต้องการเพื่อเลือกรูปแบบสีที่ดีที่สุด
แง่มุมหนึ่งของทฤษฎีสีที่น่าสนใจคือจิตวิทยาของสีซึ่งอธิบายถึงวิธีการที่ผู้คนตีความและให้ความหมายกับสีต่างๆ สีส่งผลต่อความรู้สึกที่คุณมีต่อผลิตภัณฑ์ การตัดสินใจของคุณ รวมถึงวิธีที่คุณตีความสารต่างๆ
เนื่องจากสีเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังของศิลปินและนักออกแบบ การเรียนรู้วิธีการใช้ประโยชน์จากสีจึงเป็นวิธีที่จะทำให้คุณประสบความสำเร็จได้อย่างแน่นอน ไม่ว่าคุณต้องการที่จะออกแบบโลโก้ใหม่หรือสร้างแบบจำลองหน้าแรกของเว็บไซต์ การทราบถึงความหมายและความเชื่อมโยงของสีจะช่วยให้คุณสามารถเลือกสีที่ดีที่สุดในการบอกเล่าเรื่องราวของคุณ
สร้างสรรค์โดยใช้สีของสายรุ้งทั้งหมด
สีแดง
สีแดงเป็นสีที่โดดเด่นมากและเชื่อมโยงกับความรู้สึกทั้งเชิงบวกและเชิงลบ ในเชิงบวก สีแดงสื่อถึงพลัง ความหลงใหล และความมั่นใจ ขณะเดียวกันก็เป็นสีที่รุนแรงซึ่งสื่อถึงความโกรธ การเตือน หรืออันตราย แต่ไม่ได้หมายความว่าคุณควรที่จะหลีกเลี่ยงการใช้สีนี้โดยสิ้นเชิง เพราะคุณสามารถใช้ประโยชน์จากสีแดงและความหมายที่ทรงพลังทั้งสองด้านได้
“ตัวอย่างเช่น หากคุณกำลังออกแบบ UI หรือ UX สำหรับการโต้ตอบ อย่าใช้สีน้ำเงินกับปุ่มลบของคุณ” นักออกแบบ UI และ UX Aliza Ackerman กล่าว “คุณต้องการสีที่ทำหน้าที่เป็นเหมือนคำเตือนที่บอกว่า ‘คุณกำลังจะลบสิ่งนี้ คุณแน่ใจที่จะทำเช่นนั้นใช่หรือไม่’”
สีแดงยังช่วยกระตุ้นให้ผู้คนตัดสินใจได้เร็วขึ้นด้วย แบรนด์ฟาสต์ฟู้ดเกือบทุกแบรนด์เลือกใช้สีแดง เนื่องจากสีแดงนั้นกระตุ้นให้เกิดการตอบสนองทางกายภาพ ทำให้คนรู้สึกหิวมากขึ้นและกระตุ้นความอยากอาหาร ในทำนองเดียวกัน บริษัทต่างๆ มักใช้สีแดงในการประกาศการลดราคาเนื่องจากสีแดงสร้างความรู้สึกเร่งรีบให้กับสารดังกล่าว
สีส้มเป็นสีที่สดใสและเปี่ยมไปด้วยพลัง มีความสุข ขี้เล่น สนุกสนาน มีพลัง และดึงดูดความสนใจ คือคุณลักษณะที่คุณสามารถผนวกเข้ากับแบรนด์หรือสารที่คุณจะสื่อได้จากการใช้สีส้ม สาเหตุที่แบรนด์เทคโนโลยีหลายแบรนด์ใช้สีส้มอาจเป็นเพราะสีส้มสื่อถึงการมองโลกในแง่ดีและพลังของการเริ่มต้นที่บริษัทสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีต้องการสื่อ
สีเหลืองสื่อถึงความร่าเริงและเพิ่มความสดชื่นมีชีวิตชีวาให้กับชุดสีของคุณ “สีเหลืองเป็นสีที่โดดเด่นและดึงดูดสายตาเป็นอย่างมาก ฉันจึงใช้สีเหลืองเป็นสีเน้นเท่าที่จำเป็นเสียเป็นส่วนใหญ่” Ackerman กล่าว เช่นเดียวกับสีแดง สีเหลืองเองก็สามารถใช้สำหรับการเตือนและสารที่ให้ข้อมูลอย่างชัดเจน
สีเขียว
สีเขียวเป็นหนึ่งในสีที่มีความหลากหลายในวงล้อสีเนื่องจากมีการใช้งานในชีวิตประจำวันอย่างแพร่หลาย เงิน ต้นไม้ อาหาร และไฟจราจรล้วนแล้วแต่ใช้สีเขียว และการที่คุณเลือกใช้สีเขียวที่มีความเข้มต่างกันก็สื่อถึงสารที่แตกต่างกันออกไป ความเชื่อมโยงระหว่างสีเขียวกับธรรมชาติสร้างความรู้สึกเป็นธรรมชาติและสุขภาพดีให้กับแบรนด์อาหารธรรมชาติหรือสตูดิโอโยคะ ในขณะที่เฉดสีเขียวสว่างมักใช้ในแอปพลิเคชันทางการเงิน “หากใช้โทนสีที่อ่อนจะให้ความรู้สึกผ่อนคลายและสบายแต่หากเป็นสีเขียวเข้มจะให้ความรู้สึกสดชื่นและมีพลังมากกว่า” Ackerman กล่าวเสริม
สีน้ำเงินคือความสงบ ผ่อนคลาย และเป็นมิตร สีน้ำเงินเป็นตัวเลือกที่ปลอดภัยและเป็นกลางที่สามารถแสดงได้ทั้งความเป็นมืออาชีพและความเป็นมิตรขึ้นอยู่กับวิธีที่คุณใช้สี สีน้ำเงินเป็นสีแห่งความน่าเชื่ือถือ หลากหลายแบรนด์ในทุกอุตสาหกรรมจึงเลือกใช้สีนี้เป็นหลักเพื่อสร้างภาพลักษณ์ในเชิงบวกให้กับตนเอง
อีกทางหนึ่ง สีน้ำเงินก็กระตุ้นให้เกิดความเศร้าดังปรากฏในวลีที่พูดกันอย่างแพร่หลาย เช่น “Feeling blue” หรือ “Having the blues” ทั้งนี้มีส่วนมาจากการที่สีน้ำเงินเป็นสีโทนเย็นที่อยู่ปลายสุดของสเปกตรัมสีและตรงข้ามกับสีโทนร้อนอย่างสีแดงและสีส้ม อย่างไรก็ตาม สีน้ำเงินที่มีเฉดต่างกันก็กระตุ้นให้เกิดความรู้สึกที่แตกต่างกัน ฉะนั้นอย่าลืมคำนึงถึงสิ่งนี้ในตอนที่คุณเลือกชุดสี
“สีม่วงเป็นสีที่มีความสง่างามอย่างมาก สีม่วงแสดงถึงความภักดี ดังนั้นหากคุณต้องการที่จะสร้างความไว้วางใจ สีม่วงก็เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม” Ackerman กล่าว นอกจากความไว้วางใจแล้ว สีม่วงยังเป็นสีที่มักถูกมองว่าเป็นสีที่ลึกลับ สีที่จัดจ้านนี้แต่เดิมเป็นสีที่สื่อถึงความเป็นหญิงและยังมีความเชื่อมโยงกับชนชั้นสูงและความหรูหรามาตั้งแต่โบราณ
อย่างไรก็ตาม ความหมายทางประวัติศาสตร์ของสีไม่ควรเป็นตัวกำหนดทิศทางที่คุณจะใช้สี แต่คุณควรรู้ว่าความเชื่อมโยงกับสีที่ฝังอยู่ในจิตใต้สำนึกเหล่านี้อาจบิดเบือนสารที่คุณตั้งใจจะสื่อโดยไม่ได้ตั้งใจได้อย่างไรบ้าง
สีชมพู
“หลายแบรนด์ที่มุ่งเน้นไปยังกลุ่มเป้าหมายที่เป็นผู้หญิงเลือกใช้สีชมพู” Ackerman กล่าว ด้วยความที่สีชมพูแสดงถึงทั้งความเอาใจใส่และความสนุกสนาน จึงเป็นสีที่มีพลังซึ่งมักทำให้ผู้คนนึกถึงความหลงใหล ความรัก และความเยาว์วัย สีชมพูเข้มเพิ่มความรู้สึกเร่งเร้ามากขึ้นในขณะที่สีชมพูหม่นให้ความรู้สึกที่ผ่อนคลายและเป็นกลางมากกว่า
สีชมพูเป็นตัวอย่างที่ดีซึ่งแสดงให้เห็นว่าเมื่อเวลาผ่านไป ความหมายของสีก็จะเปลี่ยนไปด้วยตามสภาพสังคม สีชมพูที่เคยเป็นสีของ “เด็กผู้ชาย” ตอนนี้กลายเป็นสีที่ัเชื่อมโยงกับความเป็นหญิง
สีขาวมักแสดงถึงความเรียบง่าย ความบริสุทธิ์และความสะอาด สีขาวจึงมักนำมาใช้เพื่อตัดกับสีต่างๆ ในงานออกแบบ เนื่องจากจะสร้างพื้นที่ที่สะอาดและเป็นกลางซึ่งป้องกันไม่ให้ผลงานแออัดจนเกินไป “สีขาวใช้เพื่อให้พื้นที่กับองค์ประกอบอื่นๆ และใช้เป็นพื้นหลังเพื่อแสดงสิ่งอื่นๆ ที่คุณอยากให้เป็นที่สนใจมากขึ้น” Ackerman กล่าว
ด้วยความเป็นกลางและเป็นธรรมชาติ สีน้ำตาลจึง “ให้ความอบอุ่นและความรู้สึกปลอดภัย” Ackerman กล่าว สีน้ำตาลมีความคล้ายคลึงกับสีของพื้นดินซึ่งทำให้รู้สึกถึงองค์ประกอบจากธรรมชาติได้อย่างง่ายดาย หากคุณต้องการสร้างความรู้สึกที่เป็นธรรมชาติและบริสุทธิ์ สีน้ำตาลก็เป็นสีที่ยอดเยี่ยมที่คุณสามารถใช้ได้
สีเทาเป็นสีที่เป็นกลางอย่างแท้จริงโดยเป็นสีที่ใช้เป็นสีรองหรือสีเน้นอยู่เสมอ สีเทาสามารถใช้ในการลดทอนหรือเสริมสีใดๆ หรือจะใช้เป็นพื้นหลังเรียบๆ ก็ได้ พยายามอย่าถมงานออกแบบของคุณด้วยการใช้สีเทาทั้งหมดเพราะจะทำให้งานเสียสมดุลและกลายเป็นงานที่จืดชืดน่าเบื่อ
สีดำ
สีดำเป็นสีที่ทรงพลังซึ่งสามารถเพิ่มแรงดึงดูดและพลังให้กับสารที่คุณจะสื่อได้ การใช้สีดำเท่าที่จำเป็นสามารถทำให้งานออกแบบของคุณดูเรียบหรู พื้นหลังสีดำเป็นตัวเลือกสีที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ สำหรับการออกแบบหน้าเว็บ แต่ต้องระวังไม่ให้สีดำทำให้อินเทอร์เฟสของคุณดูมืดมนและหนักจนเกินไป
ในบางโอกาสการแต่งแต้มสีดำอย่างเด่นชัดก็ช่วยบอกเล่าเรื่องราวของคุณในแบบที่ไม่มีใครทำได้ หากคุณต้องการเพิ่มความคมให้กับงานออกแบบหรือความรู้สึกที่ซับซ้อนและจริงจัง สีดำก็เป็นตัวเลือกคลาสสิกที่ไม่มีสีใดเทียบได้
คำแนะนำเพื่อพัฒนาทักษะการเลือกสีของคุณ
แต่ละวัฒนธรรมได้ให้ความหมายกับสีแตกต่างกันออกไป
เรามักจะคิดว่าสีเป็นภาษาที่เป็นสากลแต่ไม่ได้เป็นเช่นนั้นเสมอไป สีสันไม่ได้มีความหมายเหมือนกันในทุกวัฒนธรรมหรือทุกประเทศ “ในทางวัฒนธรรม อเมริกาถือว่าสีขาวเป็นสีที่แสดงถึงความบริสุทธิ์ ความไร้เดียงสา และความเรียบง่าย แต่ในจีน สีขาวเกี่ยวข้องกับความตาย และผู้คนแต่งกายด้วยชุดสีขาวไปงานศพ” Ackerman ชี้ หากคุณออกแบบงานสำหรับกลุ่มเป้าหมายในระดับโลก ให้พิจารณามุมมองที่วัฒนธรรมอื่นมีต่อสีต่างๆ เพื่อป้องกันการสื่อสารที่ผิดเพี้ยนโดยไม่ได้ตั้งใจ
เฉดสีก็มีความสำคัญเช่นเดียวกับสี
สีนั้นประกอบไปด้วยสามองค์ประกอบได้แก่ เฉด ความอิ่มของสี และความสว่าง เมื่อคุณสร้างชุดสี เฉดสีและโทนสีนั้นมีความสำคัญเช่นเดียวกับสีที่คุณเลือก สีกรมท่าเข้มเป็นสีที่ให้ความรู้สึกกล้าหาญ เข้มแข็ง และมีความเป็นชาย ในขณะที่สีฟ้าหรือสีฟ้าอ่อนให้ความรู้สึกเบาสบาย สดใส และอ่อนเยาว์ เมื่อคุณเลือกสี ให้คำนึงถึงเฉดสีมากมายที่สีนั้นมีและความรู้สึกที่เกิดจากสีเฉดต่างๆ
พูดจากมุมมองของ UX Ackerman มักเลือกเฉดสีที่อ่อนกว่าโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสีดำและสีขาว “ฉันลดความสว่างจากสีดำล้วนและสีขาวล้วนลง ฉันพยายามใช้สีเทาอ่อนหรือสีขาวนวลอยู่ตลอดเพราะสีเหล่านี้เป็นมิตรกับสายตาของผู้คนมากกว่าโดยเฉพาะเมื่ออยู่บนหน้าจอ”
สีสันสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญได้เมื่ออยู่คู่กัน ชุดสีสามารถเพิ่มพลังให้สาร ลดทอนสาร หรือทำให้เกิดความหมายใหม่โดยสิ้นเชิง และวิธีที่ดีที่สุดในการพัฒนาการเลือกชุดสีให้เหมาะสมกับงานก็คือการทดลอง ลองใช้เครื่องมือสร้างชุดสีจาก Adobe เพื่อสร้างรูปแบบสีของคุณเองและเรียนรู้เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างหลากหลายชุดสี
งานออกแบบคุณภาพสูงเริ่มต้นจากการใช้ทฤษฎีสีอย่างชาญฉลาด ในตอนนี้ที่คุณได้ทราบถึงจิตวิทยาเบื้องหลังสีต่างๆ คุณก็พร้อมที่จะนำเอาวงล้อสีมาใช้กับงานออกแบบของคุณแล้ว
ผู้มีส่วนร่วม
และคุณอาจสนใจ...
ศึกษาศาสตร์แห่งสีเพื่อดูว่าสิ่งใดทำให้ขาวและดำแตกต่างกัน
เรียนรู้วิธีเติมสีสันให้กับภาพถ่ายขาวดำ
การเติมสีสันให้กับภาพถ่ายสามารถคืนชีพให้กับอดีตได้ สำรวจวิธีเริ่มต้นในบทนำนี้
สร้างภาพพื้นหลังระดับมืออาชีพสำหรับสื่อทุกชนิด
ค้นพบวิธีสร้างภาพพื้นหลังระดับมืออาชีพสำหรับงานนำเสนอ เดสก์ท็อป และโปรเจกต์อื่นๆ
วิธีก้าวไปสู่การเป็นนักวาดภาพประกอบ
เรียนรู้เคล็ดลับการสร้างพอร์ตโฟลิโอและการนำเสนองานศิลปะที่จะช่วยให้คุณเป็นดาวรุ่งในสายอาชีพใหม่
Creativity for all.
การถ่ายภาพ วิดีโอ การออกแบบ UX 3 มิติและ AR Creative Cloud มีทุกสิ่งที่คุณต้องการไม่ว่าจินตนาการจะพาคุณไปที่ใด