แอมบิแกรมคืออะไร

แอมบิแกรมคือคำหรือการออกแบบที่ยังคงความหมายเดิมไว้แม้มองจากทิศทางหรือเพอร์สเปกทีฟที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะแอมบิแกรมแบบหมุนซึ่งสามารถอ่านได้เหมือนเดิมเมื่อกลับหัว ในขณะที่แอมบิแกรมแบบสะท้อนหรือสมมาตรสามารถอ่านได้เหมือนเดิมเมื่ออ่านจากหน้าไปหลังหรือจากหลังไปหน้า

อีกประเภทหนึ่งของแอมบิแกรมคือแอมบิแกรมที่เปลี่ยนคำเมื่อหมุน ซึ่งงานออกแบบแอมบิแกรมบางส่วนได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมสมัยนิยม โดยมีงานออกแบบหนึ่งที่อ่านได้ว่า “love” และ “life” เมื่อมองในรูปแบบที่ต่างกัน หรืออีกงานที่สามารถอ่านได้ทั้งคำว่า “saint” และ “sinner”

แอมบิแกรมของคำว่า “June”
#f5f5f5

วิธีสร้างแอมบิแกรมของคุณเอง

แอมบิแกรมที่ประสบผลสำเร็จคือแอมบิแกรมที่ตรงตามเกณฑ์สองข้อต่อไปนี้ ข้อแรกคือตัวอักษรต้องอ่านง่าย หากข้อความไม่ชัดเจนหรืออ่านยาก นั่นหมายความว่าแอมบิแกรมของคุณจะใช้งานไม่ได้ ข้อสองคือต้องมีเหตุผลรองรับ เช่น เหตุใดคุณถึงสร้างแอมบิแกรมนี้ และคุณต้องการจะถ่ายทอดอะไร ซึ่งสาเหตุที่ทำให้แอมบิแกรมของคำว่า life และ love ใช้ได้ผลนั้น ก็เพราะว่าแอมบิแกรมดังกล่าวสามารถสื่อถึงความสัมพันธ์ของคำทั้งสองได้อย่างลงตัว

การสร้างแอมบิแกรมเป็นเรื่องของการแก้ไขปริศนาภาพด้วยการก้าวออกจากกรอบที่คุ้นเคยของการเป็นนักออกแบบ แม้การออกแบบแอมบิแกรมจะเป็นงานที่ท้าทาย แต่ก็สามารถเริ่มต้นได้ง่ายๆ ในไม่กี่ขั้นตอน

#f5f5f5
การสร้างแอมบิแกรมผ่านการใช้พื้นที่และสี
#f5f5f5

1. เริ่มต้นโดยการระบุสิ่งที่คุณต้องการสื่อ

แอมบิแกรมของคุณจะสื่อถึงอะไร ไม่ว่าจะเป็นวลีหรือคำศัพท์สั้นๆ คุณก็ควรตระหนักถึงข้อจำกัดของแอมบิแกรมทุกครั้ง เนื่องจากบางตัวอักษรก็ไม่สามารถแปลงเป็นตัวอักษรอื่นได้ ตลอดจนคำศัพท์สั้นๆ บางคำก็ไม่สามารถกลายเป็นประโยคยาวๆ ได้อย่างน่าอัศจรรย์เมื่อพลิกกลับหัวเช่นกัน

#f5f5f5

2. ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับแบบอักษรและการใช้สัญลักษณ์ต่างๆ

“คุณสามารถสร้างกรอบอ้างอิงของคุณได้โดยสังเกตดูลวดลายและสไตล์การออกแบบจากวัฒนธรรมต่างๆ” ศิลปินและนักออกแบบ Arnold Pander อธิบาย การทำความเข้าใจเกี่ยวกับ Flourish และ Serif (ดูข้อมูลเกี่ยวกับคำศัพท์ด้านการออกแบบตัวอักษร) ที่ใช้ในแบบอักษรยุคกลางหรือแบบโกธิคจะช่วยให้คุณมีเครื่องมือในการออกแบบและปรับเปลี่ยนตัวอักษรสำหรับการออกแบบแอมบิแกรมมากขึ้น หากคุณไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นที่ไหน ลองสำรวจ Adobe Fonts คุณอาจจะพบแรงบันดาลใจที่คุณกำลังตามหาอยู่ก็เป็นได้

#f5f5f5

3. เริ่มร่างการออกแบบ

แอมบิแกรมคือปริศนาคำศัพท์ ดังนั้นคุณควรขยายกรอบความคิดด้วยการร่างคำของคุณหลายๆ ครั้ง จากนั้นสังเกตตำแหน่งที่ตัวอักษร และทดลองกับรูปทรงต่าง ตามที่ Robin Casey ศิลปินด้านตัวอักษรได้กล่าวว่า “แอมบิแกรมมีความซับซ้อนหลายชั้นมากซึ่งทำให้สามารถใช้ได้ผล แต่ถ้าไม่ได้ ก็จะเห็นได้ชัดมาก” นอกจากนี้ ช่องไฟและระยะห่างระหว่างกลุ่มตัวอักษรจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับมุมมองในการอ่าน ดังนั้นให้คำนึงถึงเรื่องนี้เมื่อร่างรูปทรงสำหรับคำของคุณ ทั้งนี้โดยธรรมชาติแล้ว การออกแบบแอมบิแกรมนั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก ดังนั้นอย่ารู้สึกท้อใจกับแบบร่างแรกของคุณ ซึ่งหากงานออกแบบของคุณใช้ไม่ได้ผล ให้ลองใช้แบบอักษรอื่นหรือเปลี่ยนเป็นตัวพิมพ์ใหญ่ทั้งหมด โดย Adobe มีเครื่องมือที่จะช่วยเหลือคุณในการออกแบบแบบอักษรของคุณเอง

#f5f5f5

4. ปรับปรุงการออกแบบให้ดีที่สุด

ทำให้งานออกแบบที่ใช้ได้ผลจริงของคุณเป็นรูปธรรมด้วย Adobe Illustrator หากคุณร่างภาพลงบนกระดาษ ให้สแกนหรือถ่ายภาพการออกแบบของคุณแล้วสร้างภาพร่างนั้นในเวอร์ชันเวกเตอร์ ทำความคุ้นเคยกับวิธีหมุนและสะท้อนวัตถุใน Illustrator เพื่อให้คุณสามารถพลิกและทำให้ตัวอักษรของคุณเสร็จสมบูรณ์ได้ นอกจากนี้ ให้ทำตามบทช่วยสอนเกี่ยวกับโลโก้นี้เพื่อเรียนรู้วิธีการปรับแต่งงานออกแบบต่างๆ รวมถึงแอมบิแกรมของคุณด้วย

โลโก้แอมบิแกรมแบบเรียบง่าย
งานออกแบบโลโก้ Seven Electric Ambigram
โลโก้ Hello Indonesia

สำรวจทุกซอกทุกมุมเกี่ยวกับแอมบิแกรม

Douglas R. Hofstadter เป็นผู้กล่าวถึงแอมบิแกรมเป็นครั้งแรก โดยเขาอธิบายแอมบิแกรมว่าเป็นการออกแบบตัวอักษรที่สามารถใส่ความหมายสองแบบที่แตกต่างกันได้ ซึ่งการออกแบบตัวอักษรดังกล่าวกลายเป็นที่รู้จักในวัฒนธรรมสมัยนิยมผ่านนิยายของนักเขียน Dan Brown และศิลปิน John Langdon โดยสไตล์การออกแบบแอมบิแกรมปรากฏในเนื้อเรื่อง The Da Vinci Code ของ Brown และยังใช้ประดับหน้าปกหนังสือ Angels & Demons ของเขาด้วยเช่นกัน อันที่จริงแล้ว Brown ได้ตั้งชื่อตัวละครหลักของเขาตามชื่อศิลปิน Langdon ซึ่งเป็นผู้ช่วยส่งเสริมการพัฒนาการออกแบบแอมบิแกรม นอกเหนือจากปกของหนังสือยอดนิยมแล้ว คุณมักจะเห็นแอมบิแกรมในรูปแบบโลโก้หรือรอยสักด้วย

“[แอมบิแกรม] คือจุดที่โลโก้และการออกแบบกราฟิกกลายเป็นรูปแบบศิลปะที่แท้จริง เพราะคุณต้องบิดความคิดและทำลายหรือดัดแปลงกฎเกณฑ์ในการสร้างสรรค์ของคุณ”

Pander เรียกแอมบิแกรมว่าเป็นพาลินโดรมของการสร้างแบรนด์ “คือจุดที่โลโก้และการออกแบบกราฟิกกลายเป็นรูปแบบศิลปะที่แท้จริง เพราะคุณต้องบิดความคิดและทำลายหรือดัดแปลงกฎเกณฑ์ในการสร้างสรรค์เพื่อให้การออกแบบนั้นบรรลุผล” แบรนด์ต่างๆ อาจต้องการโลโก้แบบแอมบิแกรมเนื่องจากสามารถซ่อนความหมายแฝงหรือถ่ายทอดสารได้มากกว่าแค่ชื่อแบรนด์ธรรมดา อีกทั้งโลโก้แอมบิแกรมยังเป็นที่น่าจดจำและสามารถช่วยให้บริษัทโดดเด่นต่างจากคู่แข่งได้

แอมบิแกรมเป็นศิลปะภาพลวงตาที่ได้รับความนิยมในการออกแบบรอยสัก หากคุณกำลังมองหาแรงบันดาลใจสำหรับรอยสักแอมบิแกรมของคุณ อย่ากลัวที่จะอ้างอิงไอเดียจากเครื่องมือสร้างแอมบิแกรม เช่น FlipScript.com โดยโปรแกรมเหล่านี้สามารถช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดการผสมผสานตัวอักษรแบบใหม่ หรือช่วยคุณแก้ไขปัญหาในการออกแบบที่เกิดขึ้นเมื่อหมุนหรือพลิกตัวอักษรกลับหัว

ตอนนี้คุณก็สามารถลองออกแบบแอมบิแกรมของคุณเองได้แล้ว การทำให้แอมบิแกรมมีความหมายและอ่านง่ายนั้นสำคัญมาก หากคุณต้องการแรงบันดาลใจเพิ่มเติมก่อนที่จะเริ่มออกแบบ ให้ลองดูที่ Behance และดูว่าศิลปินคนอื่นๆ กำลังสร้างสรรค์อะไรอยู่


ผู้มีส่วนร่วม

Arnold Pander และ Robin Casey


https://main--cc--adobecom.hlx.page/cc-shared/fragments/seo-articles/do-more-illustrator-color-blade

คุณอาจสนใจสิ่งเหล่านี้ด้วย